
คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
[กรุงเทพฯ] (22 พฤษภาคม 2568) – กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน ได้แก่ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด (โรงงานหนองแค และศูนย์ยางหล่อดอก บริดจสโตน-บันแดก) บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ายกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต (ขอบเขตที่ 1 และ 2)*1 ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่า (ขอบเขตที่ 3) *2 ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการใช้พลังงานหมุนเวียน รวมถึงส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนทั่วทั้งองค์กร ควบคู่กับการสร้างสรรค์และพัฒนาคุณภาพความพรีเมียมสู่ผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้พร้อมตอบรับสังคมการเดินทางยุคใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางให้สังคมไทย นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการมุ่งบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมของบริดจสโตนด้วยการสนับสนุนและขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และสอดรับกับนโยบายสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนทางธุรกิจของบริดจสโตน
โครงการศึกษาพาพนักงานดูงานเรื่องพลังงานไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. (สำนักงานกลาง)
คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวโดยรวม ว่า “กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป เราได้ปรับเปลี่ยนชนิดของแหล่งพลังงานและเชื้อเพลิงด้วยการเพิ่มสัดส่วนการไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการลงทุนปรับเปลี่ยน และติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยอนุรักษ์พลังงาน เช่น การขยายการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ การใช้ระบบแสงสว่างแบบ LED อัจฉริยะ (Smart LED Lighting) และการดำเนินโครงการ Energy Efficiency Project เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานด้วยความแม่นยำสูง นอกจากนี้ ยังสร้างเครือข่ายร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาโซลูชั่น เพื่อลดและชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเข้าร่วมเวิร์กชอปนวัตกรรมคาร์บอนเครดิต การทดลองใช้พลังงานทดแทนรุ่นใหม่สำหรับอุปกรณ์และยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Integration) ตลอดจนศึกษาแนวทางการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น IoT และ AI เพื่อบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสในอนาคต เป็นต้น”
นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริม และกระตุ้นให้พนักงานทุกระดับภายในองค์กร มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเข้าร่วมกิจกรรมวันความยั่งยืนของบริดจสโตน
ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 22 เมษายน ของทุกๆ ปี โดยในปีนี้ เน้นย้ำ และให้ความสำคัญเรื่องการประยุกต์ใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ตลอดจนความสำคัญของพลังงานยั่งยืน ที่จะส่งผลต่ออนาคตของโลก มนุษยชาติ สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ และการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนทั่วโลกด้วย รวมถึงการพาพนักงานไปศึกษาดูงาน จากกองค์กรชั้นนำด้านการจัดการพลังงาน เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ และนำแนวทางมาประยุกต์ใช้ในองค์กร เป็นต้น เพราะเราเชื่อมั่น ว่า พนักงานนอกจากจะเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลให้องค์กรมีความยั่งยืนระยะยาวแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสังคม และประเทศ” คุณอะกิฮิโตะ อิชิอิ กล่าวเพิ่มเติม
อีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สะท้อนถึงการเป็นองค์กร ที่ให้ความสำคัญกับความมุ่งมั่น ในการดำเนินงานด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน คือ การได้รับ ประกาศนียบัตรรับรองด้าน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” (Carbon Footprint for Organization : CFO) ประจำปี พ.ศ. 2567 จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงานขององค์กรภายใต้กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน และยังครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่กระบวนการผลิต การจัดจำหน่าย ศูนย์บริการ ตลอดจนการนำโครงยางเข้าสู่กระบวนการหล่อดอก สะท้อนถึงการตระหนัก และใส่ใจในทุกกระบวนการทั้งในส่วนของการใช้เชื้อเพลิง การใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงการควบคุมการรั่วไหลของสารที่ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดขึ้นตลอดการดำเนินธุรกิจ ในปี พ.ศ. 2566 ตามข้อกำหนดของ TGO ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน จะยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามนโยบายสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน เพื่ออยู่ร่วมกับสังคมการเดินทางของประเทศ พร้อมผลักดันวงการยานยนต์ไทย ให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน ด้วยเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามที่ได้ตั้งไว้คาร์บอนตามที่ได้ตั้งไว้
กลุ่มบริษัทในเครือไทยบริดจสโตน ได้รับประกาศนียบัตรรับรองด้าน “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร”
(Carbon Footprint for Organization: CFO) ประจำปี พ.ศ. 2567 จาก TGO
*1 เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จาก ขอบเขตที่ 1 และ 2 คือ ลดการปล่อยได้ 50% ภายใน ปี พ.ศ. 2573 เมื่อเปรียบเทียบกับปีฐาน (ปี พ.ศ. 2554) และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593
เมื่อเทียบกับปีฐาน (ปี พ.ศ. 2554)
*2 เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จาก ขอบเขตที่ 3 คือ ภายใน ปี พ.ศ. 2573 ลดปริมาณการปล่อย
ลงให้ได้ มากกว่า 5 เท่า ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขอบเขตที่ 1 และ 2 ที่เกิดขึ้น ในปี พ.ศ. 2563
เกี่ยวกับ บริดจสโตน ประเทศไทย :
บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือ หนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน , ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูง ซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทาง , การใช้ชีวิต , การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 23 พฤษภาคม 2568 11:00:00 เข้าชม : 1589433 ครั้ง