Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ จีดีพี กว่างตง ครองอันดับหนึ่ง ในจีน 35 ปี

จีดีพี กว่างตง ครองอันดับหนึ่ง ในจีน 35 ปี

14 second read
0
0
230

ปี 2023 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี (Gross Domestic Product: GDP) ของมณฑลกว่างตง ภาคใต้ของจีนสร้างสถิติ เป็นเงิน 13,567,316 ล้านหยวน นับเป็นมณฑลแรกในจีน ที่มี จีดีพี ทะลุ 13 ล้านล้านหยวน และจีดีพีของมณฑลครองอันดับหนึ่ง ในประเทศ เป็นเวลา 35 ปี ติดต่อกัน

เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก จีดีพี รวมของมณฑลกว่างตง ติด 10 อันดับแรกของโลก แซงหน้าประเทศต่าง ๆ เช่น รัสเซีย เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

ในปี 2023 หลายเมืองของมณฑลกวางตุ้ง ก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนาครั้งประวัติศาสตร์ เช่นกัน กว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกกลายเป็นเมืองที่สี่ของประเทศที่มีจีดีพีเกิน 3 ล้านล้าน เซินเจิ้น กลายเป็นเมืองการบริโภคที่ห้าล้านล้านดอลลาร์ และฝอซานกลายเป็นเมืองที่สองของประเทศที่ผลผลิตทางอุตสาหกรรมทั้งหมด เกิน 3 ล้านล้าน

ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา จีดีพี ของมณฑลกว่างตงครองอันดับหนึ่งในจีน มาโดยตลอด โดยคิดเป็น 1/8 ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ และเป็นอันดับหนึ่งในประเทศ ด้านความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ อย่างครอบคลุม อีกทั้งได้ชื่อ ว่า เป็น “มณฑลที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน” ที่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูป และเปิดประเทศ มณฑลกวางต่งได้พัฒนาเศรษฐกิจด้วยจิตวิญญาณผู้บุกเบิกการสำรวจโดยใช้ประโยชน์จากอานิสงส์ของยุคโลกาภิวัตน์

ย้อนกลับไปก่อนที่จีนจะปฏิรูป และเปิดประเทศ มณฑลกว่างตง ยังคงเป็นมณฑลหนึ่งที่ทำเกษตรกรรมเป็นหลัก เมื่อปี 1978 จีดีพีรวมอยู่ที่อันดับ 5 ของประเทศ น้อยกว่านครเซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง มณฑลเหลียวหนิง และมณฑลซานตง  คิดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเขตฮ่องกง ด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการค้าต่างประเทศ และอุตสาหกรรมการผลิต  มณฑลกว่างตงได้พัฒนาเป็นโรงงานของโลก ต่อจากการครองตำแหน่ง “มณฑลที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน” แล้ว  จีดีพี ของมณฑลกว่างตงยังแซงหน้า“4 เสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย ” (Four Asian Tigers : FATs) คือ สิงคโปร์  เขตฮ่องกง มณฑลไต้หวันและเกาหลีใต้ในปี 1998  ปี 2003  ปี 2007 และ ปี 2021 ตามลำดับ ในช่วง 45 ปีระหว่างปี 1978-2023 จีดีพี ของมณฑลกว่างตงเติบโตขึ้นมากกว่า 700 เท่า นับเป็นปาฏิหาริย์การเติบโตในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของโลก

นอกจากเป็น “มณฑลที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน” แล้ว มณฑลกว่างตงยังเป็นมณฑลที่ทำการค้าต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของจีนด้วย โดยเมื่อปีที่แล้ว ยอดการค้าต่างประเทศ ทั้งการนําเข้า และส่งออก เป็นเงิน 8.3 ล้านล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 19.9 ของประเทศ ครองอันดับหนึ่งมาเป็นเวลา 38 ปี ติดต่อกัน ขณะเดียวกัน มณฑลกว่างตง ยังเป็นมณฑลที่อุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดในจีนด้วย เมื่อปีที่แล้ว มณฑลกว่างตง มีรายได้จากอุตสาหกรรม สูงถึง 18 ล้านล้านหยวน โดยมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรม มากกว่า 71,000 ราย ทั้งรายได้จากอุตสาหกรรม และจำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ต่างอยู่อันดับหนึ่งของประเทศ มณฑลกว่างตง พัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ การผลิตรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในบ้าน และอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ เป็นอุตสาหกรรมหลัก และผลผลิตของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ รถยนต์พลังงานใหม่ โดรน โทรศัพท์มือถือ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และสมาร์ททีวีต่างเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ มณฑลกว่างตงมีเมืองอุตสาหกรรมสำคัญ 4เมือง ซึ่งติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของประเทศ  ได้แก่ เมืองเซินเจิ้น เมืองกว่างโจว เมืองฝอซานและเมืองตงก่วน ปี 2023 เมืองกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตง กลายเป็นเมืองอันดับที่ 4 ของประเทศที่มีจีพีมากกว่า 3 ล้านล้านหยวน เมืองเซินเจิ้น ที่อยู่ใกล้กับเขตฮ่องกง ได้ขยับขึ้นเป็นเมืองอันดับ 5 ของประเทศ ที่มูลค่าการบริโภคทะลุล้านล้านหยวน ส่วนเมืองฝอซานที่อยู่ใกล้ เมืองกว่างโจวมีมูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรม มากกว่า 3 ล้านล้านหยวน

หลายปีมานี้ มณฑลกว่างตงได้ก่อตั้งคลัสเตอร์การผลิตที่ก้าวหน้าระดับชาติ 7 แห่ง พัฒนาธุรกิจ “ยักษ์น้อย” ระดับชาติมากกว่า 1,500 แห่ง ซึ่งครองอันดับหนึ่งของประเทศ

นอกจากนี้ มณฑลกว่างตง ยังเป็นมณฑลที่ใหญ่ที่สุดด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของจีน ด้วย โดย ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมณฑลกว่างตงในปี 2023 มีกว่า 440,000 ล้านหยวน เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และความสามารถด้านการสร้างนวัตกรรมของมณฑลกว่างตง ครองอันดับหนึ่งของประเทศ เป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน

ที่น่าสนใจคือ มณฑลกว่างตง ยังเป็นมณฑลที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในจีน อย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายปี ด้วยจำนวนประชากรถาวรถึง 126 ล้านคน แซงหน้ามณฑลที่เดิมเคยมีประชากรมากกว่าอย่างซานตง และมณฑลเหอหนาน  มณฑลกว่างตงไม่เพียงแต่มีประชากรจํานวนมาก หากยังมีอัตราการเจริญพันธุ์สูงที่สุดในประเทศอีกด้วยโดยประชากรเกิดใหม่ของมณฑลกว่างตงมีมากกว่า 1 ล้านคนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 40 ปี คิดเป็นร้อยละ 8.9 ของประชากรถาวรของประเทศ และคิดเป็นร้อยละ 11 ของประชากรที่เกิดทั้งหมด  จึงได้ชื่อว่า เป็นมณฑลที่ “กล้ามีลูก”

ข้อมูลล่าสุด ระบุ ว่า ในปี 2023 มณฑลกว่างตง ได้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งหมดถึง 777 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 950,000 ล้านหยวน มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ความเหนือกว่าด้านการค้า และประชากร  ทำให้ การท่องเที่ยวของมณฑลกว่างตงโดดเด่นด้าน “การท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจ” และ “การท่องเที่ยวพร้อมเยี่ยมญาติ” จุดขายการท่องเที่ยวของมณฑลกว่างตงคือ เป็นแหล่งหนีหนาวและมีชายหาดที่สวยงาม นอกจากนี้ มณฑลกว่างตงยังมีสวนสนุกหลายแห่ง เช่น สวนสนุกหน้าต่างโลกหรือ Window of the World ในเมืองเซินเจิ้น ชูประเด็นว่า “คุณใช้เวลาหนึ่งวันที่นี่ สวนสนุกจะเปิดทั้งโลกแก่คุณ”

ปัจจุบัน มณฑลกว่างตงได้วางแผนจะพัฒนาพื้นที่เขตเมืองหลักทั้งหมด 5 แห่ง ซึ่งรวมถึงเขตเขตเมืองระดับชาติสองแห่งคือ เขตกว่างโจวและเซินเจิ้น นอกจากนี้ ยังมีเขตตะวันตกของปากแม่น้ำเพิร์ล เขตซัวเถา-แต้จิ๋ว-เจียหยัง และเขตจั้นเจียง-เม่าหมิง นอกจากนี้ ยังมีเมืองต่าง ๆ 9 เมือง ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ในมณฑลกว่างตง จะร่วมมือกับเขตฮ่องกง และเขตมาเก๊าเพื่อพัฒนาเขตอ่าวกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊าให้เป็นพื้นที่อ่าวที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ให้ทัดเทียมกับบริเวณอ่าวนิวยอร์ก อ่าวซานฟรานซิสโกในสหรัฐอเมริกา และบริเวณอ่าวโตเกียวในญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มณฑลกว่างตงประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยม และ จีดีพีของมณฑลกว่างตง ได้ครองอันดับหนึ่งของจีน เป็นเวลา 35 ปี ติดต่อกันก็ตาม

แต่ก็ต้องยอมรับว่า ศูนย์กลางเศรษฐกิจของมณฑลกว่างตงนั้น กระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ลมากเกินไป พื้นที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคเหนือของมณฑลกว่างตง ยังคงเป็นจุดอ่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และจีดีพี ต่อหัวของบางพื้นที่ต่ำกว่าระดับประเทศ ด้วยซ้ำ

เขียน โดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ  ศุกร์  23  กุมภาพันธ์  2567  15:30:59 เข้าชม  1895732 ครั้ง

Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

อบจ.ภูเก็ต ร่วมพิธี วางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2567

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567  ที่ผ่านมา ณ หอประชุม ศาลากล … …