
ปักกิ่ง, 15 ม.ค. (ซินหัว) – ในปี 2024 จีนยังคงให้ความสำคัญกับภาคเศรษฐกิจจริง (real economy) โดยเน้นนวัตกรรม และความก้าวหน้า ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมคุณภาพสูง และอุตสาหกรรมเกิดใหม่ อย่างเศรษฐกิจการบินระดับต่ำ (low-altitude economy), อวกาศพาณิชย์ (commercial space), หุ่นยนต์มนุษย์ (humanoid robots) และการผลิตทางชีวภาพ (Biomanufacturing)
ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง พฤศจิกายน 2024 การผลิตภาคอุตสาหกรรมไฮเทคเติบโตขึ้น ร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา ขณะที่การลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 สูงกว่าการเติบโตของการลงทุน โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ ผลสำเร็จเหล่านี้เกิดจากมาตรการสนับสนุนต่างๆ อันถึงแนวปฎิบัติในเดือนมกราคม 2024 ที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรม ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น การผลิต พลังงาน และสุขภาพ
กวนปิง เจ้าหน้าที่ จาก กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน (MIIT) กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นและหน่วยงานต่างๆ ได้สนับสนุนอุตสาหกรรมเกิดใหม่ด้วยเงินทุนเฉพาะทาง สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการจัดสรรงบประมาณ ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ พลังงานใหม่ และเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งกำลังสร้างแรงขับเคลื่อนให้การเติบโตทางเศรษฐกิจ
อุตสาหกรรมดั้งเดิมก็ได้พัฒนาควบคู่ไปกับปัญญาประดิษฐ์ โดยนำการเปลี่ยนไปสู่ระดับไฮเอ็น มีความเป็นดิจิทัล และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนถึงปลายปี 2024 จีนได้พัฒนาระบบโรงงานอัจฉริยะไปแล้ว 421 แห่ง สิ่งอำนวยความสะดวก 5G ที่ล้ำสมัย 700 แห่ง และโรงงานสีเขียวระดับชาติ 1,383 แห่ง ทำให้การผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลกับภาคเศรษฐกิจจริงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เครือข่าย 5G ของจีน ขยายตัวอย่างมาก โดยมี สถานีฐาน 4.19 ล้าน แห่ง ให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2024 คิดเป็นร้อยละ 42 ของการประกาศสิทธิบัตร 5G ทั่วโลก นอกจากนี้ ความก้าวหน้าในด้านกำลังการประมวลผลและแพลตฟอร์มข้อมูลภาครัฐแบบเปิด ก็ได้เพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรดิจิทัลและขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรม
ซินหย่งเฟย จาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศจีน (CAICT) กล่าวว่า การผสานเทคโนโลยีเข้ากับอุตสาหกรรมดั้งเดิมได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผล โดยองค์ประกอบข้อมูล และการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล ได้ช่วยยกระดับคุณภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ศักยภาพในการนวัตกรรมของจีน กำลังเติบโตอย่างเห็นได้ชัด จากการที่จีนขึ้นมาเป็นอันดับ 11 ในดัชนีนวัตกรรมโลกปี 2024 นวัตกรรมในห่วงโซ่อุปทานขับเคลื่อนโดยความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย ซึ่งนำการพัฒนามาสู่การประยุกต์ใช้จริง
ในปี 2024 จีนได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมการผลิตแห่งชาติ 33 แห่ง และสนับสนุนการสร้างธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม กว่า 140,000 แห่ง รวมถึงประเภท “ยักษ์เล็ก (little giant)” พร้อมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะทาง กำลังก่อรูประบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนในการสมัยใหม่ของอุตสาหกรรม ในปี 2025 โดยสนับสนุนการนวัตกรรมโครงสร้าง พัฒนาประสิทธิภาพ และทำให้จีนกลายเป็นผู้นำ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
(เรียบเรียง โดย Yu Huichen, Xinhua Silk Road, https://www.xinhuathai.com/silkroad/490722_20250116 , https://en.imsilkroad.com/p/343861.html)
———————————————————————————————————————————
ภาพประกอบข่าว
(แฟ้มภาพซินหัว : ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นทัศนียภาพ ของมาเก๊าทาวเวอร์ (Macao Tower) และเกาะเหิงฉินในเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน วันที่ 5 ก.ค. 2024)
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ ศุกร์ 17 มกราคม 2568 10:23:59 เข้าชม 1897422 ครั้ง