Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ บทวิเคราะห์ การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เข้าสู่ขั้นใหม่ของการพัฒนาคุณภาพสูง

บทวิเคราะห์ การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เข้าสู่ขั้นใหม่ของการพัฒนาคุณภาพสูง

6 second read
0
0
294

ปี ค.ศ. 2013 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวสุนทรพจน์สำคัญที่คาซัคสถาน และอินโดนีเซีย โดยได้เสนอความคิดริเริ่มว่าด้วยการร่วมกันสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” และ “เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21” ตามลำดับ ตั้งแต่นั้นมา ความร่วมมือในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้เปิดบทใหม่ สำหรับการพัฒนาของโลก

ช่วงกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ประสบผลสำเร็จมากมาย โดยจีนประสบความสำเร็จในการจัดประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สามครั้ง และได้ลงนามเอกสารความร่วมมือเกี่ยวกับการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ 150 กว่าประเทศและกว่า 30 องค์การระหว่างประเทศ , โครงข่ายการเชื่อมต่อกัน “หกระเบียง หกช่องทาง หลายประเทศ หลายท่าเรือ” ได้ก่อรูปขึ้นในขั้นพื้นฐาน และได้เสร็จสิ้นการสร้างโครงการสำคัญ เชิงสัญลักษณ์หลายโครงการ เช่น ทางรถไฟจีน-ลาว ทางรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง และทางรถไฟฮังการี-เซอร์เบีย เป็นต้น จีนและธนาคาร เพื่อการพัฒนาพหุภาคี ได้ร่วมเตรียมการสร้างศูนย์ความร่วมมือทางการเงิน เพื่อการพัฒนาพหุภาคี โดย ธนาคารเพื่อการพัฒนาและธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ต่างก็วางกรอบในการระดมทุน 350,000 ล้านหยวน ได้สร้างระบบการลงทุนและการระดมทุนที่หลากหลาย มั่นคง และยั่งยืนในขั้นพื้นฐาน , ณ สิ้นเดือนกันยายน ปีนี้ ยอดการค้าสินค้าระหว่างจีนกับประเทศที่ร่วม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” สูงถึง 160 ล้านล้านหยวน จีนครองอันดับหนึ่งของโลก ทั้งในแง่จำนวนการลงนามข้อตกลงการรับรองมาตรฐานเออีโอ ซึ่งกันและกัน และในแง่จำนวนประเทศ ที่ให้การรับรองมาตรฐานเออีโอ ซึ่งกันและกัน ระดับการเปิดเสรี และการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการลงทุนได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเด่นชัด , ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป ได้เข้าถึง 227 เมืองใน 25 ประเทศยุโรป และมากกว่า 100 เมืองใน 11 ประเทศ เอเชีย มีการเดินรถขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป แล้วกว่า 100,000 ขบวน ขนส่งสินค้ามากกว่า 11 ล้านทีอียู คิดเป็นเงิน กว่า 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ , “หลู่ปัน เวิร์กชอป” (Luban Workshop) แห่งประเทศไทยซึ่งถือเป็น “หลู่ปัน เวิร์กชอป” แห่งแรกได้เปิดดำเนินการเมื่อ ค.ศ. 2016 ในช่วงกว่า 8 ปี นับจากนั้น จีนได้ร่วมกับประเทศต่างๆสร้าง “หลู่ปัน เวิร์กชอป” มากกว่า 30 แห่ง ใน 3 ทวีป อันได้แก่ เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ได้ฝึกอบรมนักเรียนสายวิชาการเกือบ 10,000 คน ได้ฝึกอบรมสายอาชีพกว่า 31,000 คน ซึ่งถือเป็นการสร้างสะพาน สำหรับการแลกเปลี่ยนบุคลากร และวัฒนธรรมระหว่างจีนกับต่างประเทศ

การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่นั้น ถือเป็นการอุทิศภูมิปัญญาจีนและเสนอแนวทางจีนในการปรับเปลี่ยนระบบธรรมาภิบาล ตลอดจนความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของโลก ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กว้างขวางที่สุด และทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้วางแผน กำหนดมาตรการ และขับเคลื่อนการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จีนได้จัดประชุมเกี่ยวกับการสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 4 ที่กรุงปักกิ่ง ขณะกล่าวสุนทรพจน์ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ให้เห็นว่า การร่วมกันสร้าง” “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้เข้าสู่ขั้นใหม่แห่งการพัฒนาคุณภาพสูง พร้อมยืนยันถึงผลสำเร็จที่สำคัญในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และได้มอบนโยบายเพื่อส่งเสริมการร่วมกันพัฒนา “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่ครอบคลุม และมีคุณภาพสูง ทั้งในปัจจุบัน และในระยะต่อ ๆ ไป เช่น ปรับปรุงกลไกการวางแผน และการบริหารจัดการ โดยรวมในการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปรับปรุงกลไกการประสานงาน และการขับเคลื่อน “การเชื่อมโยงด้านฮาร์ดแวร์” “การเชื่อมโยงด้านซอฟต์แวร์” และ “การเชื่อมโยงด้านจิตใจ” ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และขยายพื้นที่ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนาที่มีชัยชนะร่วมกันในระดับที่สูงขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น ฯลฯ

การอัดฉีดโมเมนตัมใหม่ให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การเปิดพื้นที่ใหม่สำหรับการพัฒนาของโลก และการสร้างแพลตฟอร์มใหม่สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศนั้น ถือเป็นข้อเสนอของจีนมาโดยตลอด และก็เป็นความตั้งใจแรกเริ่มของความคิดริเริ่มว่าด้วยการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”  ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่า การร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ไม่ใช่สโลแกนที่เลื่อนลอย แต่เป็นมาตรการเชิงปฏิบัติที่มองเห็นได้และจับต้องได้ ได้นำมา และยังคงจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ ที่จับต้องได้มาสู่ประเทศต่าง ๆ ต่อไป มองไปในอนาคต จีนจะทำงานร่วมกับนานาประเทศ ส่งเสริมการร่วมกันสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้บรรลุการพัฒนาที่มีระดับ และคุณภาพสูงยิ่งขึ้น มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างความทันสมัยของโลกด้วยการพัฒนาอย่างสันติ ความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กัน และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพื่อสร้างคุณูปการใหม่ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น ต่อการสร้างประชาคม ที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ

เขียน โดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ  ศุกร์  6  ธันวาคม  2567  13:32:59 เข้าชม : 1897645 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

อบจ.ภูเก็ต ร่วมประชุม คณะกรรมการดำเนินงาน สดุดีท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร สองวีรสตรี จังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2568

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา นายอัครวัฒน์ ศิ … …