Home ข่าวรอบเกาะภูเก็ต บันยันกรุ๊ป เปิดตัว ชุมชน ไลฟ์สไตล์นานาชาติแห่งใหม่ มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตอบรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในภูเก็ต

บันยันกรุ๊ป เปิดตัว ชุมชน ไลฟ์สไตล์นานาชาติแห่งใหม่ มูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตอบรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์ ที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในภูเก็ต

34 second read
0
0
296

โฮ กวงปิง (Ho Kwon Ping) ผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว ต่อยอดการสร้างรีสอร์ทครบวงจรที่โดดเด่นที่สุด ในเอเชีย สู่การพัฒนาชุมชนที่อยู่อาศัยนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในภูเก็ต

 (ภูเก็ต ประเทศไทย 5 กุมภาพันธ์ 2567) – คุณโฮ กวงปิง หรือเคพี โฮ (Ho Kwon Ping: K.P. Ho) ผู้บุกเบิกการท่องเที่ยว และเจ้าของ ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ทครบวงจรที่ใหญ่ และโดดเด่นที่สุดในเอเชีย เปิดเผยแผนโครงการแห่งอนาคตแห่งใหม่โดยตั้งเป้าให้เป็นชุมชนไลฟ์สไตล์นานาชาติ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีความสง่างามและกว้างใหญ่ในชื่อ ลากูน่า เลคแลนด์ (Laguna Lakelands) โดยโครงการตั้งอยู่ติดกับลากูน่า ภูเก็ต

โครงการลากูน่า เลคแลนด์เกิดขึ้นช่วงเวลาที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต กำลังเติบโต โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มครอบครัวในทั่วทุกมุมโลก ที่ไม่เพียงแต่ต้องการบ้านพักตากอากาศแบบส่วนตัวในช่วงวันหยุดในภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังต้องการย้ายมาอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังหลัก อีกด้วย

ลากูน่า เลคแลนด์ ตั้งอยู่บนพื้นที่มากกว่าหนึ่งล้านตารางเมตร (700 ไร่หรือ 276 เอเคอร์) ท่ามกลางสวนพฤกษศาสตร์ สวนสาธารณะ ป่าฝน ทะเลสาบอันเงียบสงบ และเนินเขา โดยโครงการได้รับการตั้งเป้าให้เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และได้รับการออกให้เป็นโครงการชุมชนวงจรสำหรับผู้ที่แสวงหาไลฟ์สไตล์คุณภาพสูงที่ยังมีความสมดุลตามธรรมชาติ อยู่ครบถ้วน

ชุมชนไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งนี้ จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติที่น่าหลงใหล โดยมีพื้นที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเท้า สะพาน และเส้นทางปั่นจักรยาน ความยาวรวม 15 กม. โดยเส้นทางธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์ที่รายล้อมใน ลากูน่า เลคแลนด์ นี้จะเปิดให้บริการสำหรับชุมชนในวงกว้างอีกด้วย สำหรับผู้ที่อาศัยในโครงการจะได้รับสิทธิพิเศษใน Beach Club ที่ตั้งอยู่บนหาดบางเทาที่สวยงามของชายฝั่งตะวันตกของภูเก็ต และ Country Club สโมสรสันทนาการที่รวมกิจกรรมครบครัน

เครือบริษัทบันยันกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของคุณเคพี โฮ ดำเนินการก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 นับจากการเริ่มก่อตั้งที่ภูเก็ตในช่วงปี 2533 โดยมุ่งเน้นที่การท่องเที่ยวเป็นหลัก และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยวในภูเก็ตเรื่อยมา ผู้เข้าพักที่ลากูน่า ภูเก็ต รีสอร์ทแบบครบวงจรระดับหรู คิดเป็นประมาณหนึ่งล้านคนต่อปี หรือ 10 % ของผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตทั้งหมด แต่เนื่องจากความต้องการที่เปลี่ยนไปจากการมาเพื่อเที่ยวพักผ่อนกลายเป็นการย้ายมาใช้ชีวิตในภูเก็ต ปัจจุบันบริษัทฯ จึงพัฒนาต่อยอดการดำเนินงานสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

เบื้องหลังแนวคิดการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากสถิติการย้ายถิ่นฐานทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ และยังได้รับแรงผลักดันจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงด้านไลฟ์สไตล์ทั่วโลกหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด เช่น การย้ายออกจากเมือง การทำงานนอกออฟฟิศ และการใช้ชีวิตยุคใหม่ที่รองรับครอบครัวขยาย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ความต้องการที่พักหรูในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างมาก

คุณเคพี โฮ ผู้ก่อตั้งและปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า “ภูเก็ตนอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากที่สุดในเอเชียแล้ว ภูเก็ตยังกลายเป็นสถานที่ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในเอเชียสำหรับครอบครัวที่สนใจเข้ามาตั้งถิ่นฐานและใช้ชีวิตอย่างสมดุล” และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศที่น่าดึงดูดเอื้อต่อกิจกรรมกลางแจ้งตลอดทั้งปี โรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง ท่าจอดเรือ 4 แห่ง โรงพยาบาลระดับโลก โดยนักเดินทางถึง 40% ของประชากรโลกสามารถบินตรงมายังภูเก็ตได้ภายในเวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง ภูเก็ตจึงกลายเป็นเหมือนเกาะมาจอร์ก้าแห่งเอเชีย จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์ ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก อยากมาสัมผัสบรรยากาศ”

ในขณะที่ลากูน่า ภูเก็ต ได้รับการขนานนามว่าเป็นรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดและโดดเด่นที่สุดของภูเก็ตที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการลากูน่า เลคแลนด์ ก็ได้รับการตั้งเป้าให้พร้อมที่จะเป็นจุดหมายปลายทางของที่อยู่อาศัยที่ครบวงจรที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต่างเดินทางเข้ามาเที่ยวภูเก็ต และคาดการณ์ ว่า ในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า จะมีการสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้น ถึง 5,000 ยูนิต ในภูเก็ต

คุณสจ๊วต เรดดิ้ง กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป กล่าวว่า “การเปิดตัวโครงการใหม่ของเรา สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ทางกระบวนทัศน์ของภูเก็ต จากการเป็นสถานที่ที่น่าไปเยือน สู่การเป็นสถานที่ที่น่าอยู่อาศัย โดยความต้องการไม่เพียง แต่จำกัดอยู่ที่การเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความต้องการที่จะย้ายเข้ามาอยู่แบบถาวร ที่เพิ่มมากขึ้น ด้วย”

“อสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงในภูเก็ตยังคงมีราคาต่ำกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศรัสเซีย จีน หรือยุโรป อยู่มาก ซึ่งนี่ก็ปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน” คุณสจ๊วต กล่าวเสริม

ลากูน่า เลคแลนด์ ได้รับการออกแบบให้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีความโดดเด่นโดยแบ่งเป็น 5 โซนที่แตกต่างกันได้แก่ ฮิลล์ไซด์ (Hillside) ออร์ชาร์ด (Orchard) ฟอเรสต์ (Forest) เลคไซด์ (Lakeside) และลากูน (Lagoon) โดยแต่ละโซนจะมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์เฉพาะตัว และเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินและเส้นทางปั่นจักรยานที่กว้างขวาง

โครงการที่เปิดขายในเฟสแรก คือ เลควิวเรสซิเดนซ์ (Lakeview Residences) คอนโดมิเนียมความสูงสี่ชั้นและเจ็ดชั้นแบบหนึ่งถึงสามห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้บนชั้นดาดฟ้า และวอเตอร์ฟร้อนท์วิลล่า (Waterfront Villas) วิลล่าติดลากูน แบบสี่ห้องนอนดีไซน์หรูหราพร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว โดยมีพื้นที่เฉลี่ย 560 ตารางเมตร ราคาคอนโดมิเนียมเริ่มต้นที่ 6.8 ล้านบาท (1.9 แสนเหรียญสหรัฐ) ในขณะที่วิลล่าเริ่มต้นที่ 60 ล้านบาท (1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ภายในโครงการลากูน่า เลคแลนด์จะมีตัวเลือกสันทนาการที่หลากหลายเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัยที่รักสุขภาพและให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี อาทิ สโมสรนันทนาการส่วนกลาง (Country Club) พร้อมสระว่ายน้ำ สนามกีฬา สนามเทนนิส และกิจกรรมภายในครอบครัวแบบครบครัน

โดยมี โซนผจญภัยบนเนินเขา และพื้นที่เด็กเล่น (Hillside) ตลอดจนเส้นทางเดินป่าและปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมที่จอดจักรยานเสือภูเขาโดยเฉพาะ และทางเดินผ่านป่าฝนไปยังจุดชมบนยอดสูงเพื่อชมพระอาทิตย์ตกอันตระการตา

Town Centre คือหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการออกแบบให้ตั้งอยู่ใจกลางลากูน่า เลคแลนด์ เพื่อเป็นที่พบปะสังสรรค์ สันทนาการ โดยมีร้านค้า และบริการต่าง ๆ ร้านอาหารริมทะเลสาบ ไว้ให้บริการผู้พักอาศัย รวมไปถึงบีชคลับ และโซนกิจกรรมพร้อมหอคอยขนาดใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์ของทะเลอันดามัน

ภูมิทัศน์ผืนน้ำอันงดงามพร้อมพื้นที่เปิดโล่งและให้ความเป็นส่วนตัว ถูกออกแบบเพื่อสร้างวิถีชีวิตริมทะเลสาบ (Lakeside) ที่มีความหรูหราและความเงียบสงบที่ไม่ซ้ำใคร

การออกแบบแผนผังโครงการทำให้ไลฟ์ไตล์ที่เน้นความยั่งยืนมีความกลมกลืน โดยผสมผสานเสน่ห์ของการเดินป่าผ่านป่าฝน พร้อมด้วย “จุดชมวิว” ที่มองเห็นวิวด้านล่างในมุมกว้าง สวนผลไม้ออร์แกนิก สวนบนชั้นดาดฟ้าที่ปลูกผลิตผลไร้เคมีที่นำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้ทานแบบสดใหม่ บ่อปลา พื้นที่สำหรับเด็กเล่นและสำรวจโดยเฉพาะ และดอกไม้ป่าพื้นเมืองในทุ่งหญ้าอันงดงาม พร้อมบริเวณที่นั่งในวันพักผ่อนหย่อนใจ

ลากูน่าเลคแลนด์ แม้จะแยกออกมาจากลากูน่า ภูเก็ต แต่ที่อยู่อาศัยทั้งสองแห่งนี้ ต่างมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้พักอาศัย ไม่ว่าจะเป็นความเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ที่เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเฟิร์สคลาส และรีสอร์ทระดับโลกได้อย่างง่ายดาย

“ชุมชน ที่พักอาศัยแบบบูรณาการแห่งนี้ มอบการเข้าถึงชายหาดแบบส่วนตัวจนถึงร้านอาหารระดับโลก สปา สนามกอล์ฟ โรงเรียนที่ได้มาตรฐาน และกิจกรรมร่วมกันมากมาย เราให้คำมั่นสัญญาว่า จะนำเสนอไลฟ์สไตล์ ที่ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมมอบการสัมผัสประสบการณ์ ที่หลากหลาย สุขภาพที่ยั่งยืน เหนือระดับ และความเพลิดเพลินที่ไร้ขีดจำกัด” คุณเคพี โฮ กล่าว

พิเศษ สำหรับประเทศไทย บริษัทนำเสนอตัวเลือกทางการเงินที่ช่วยให้เจ้าของที่อยู่อาศัยสามารถผ่อนชำระค่างวดได้ในระยะเวลาหลายปี ลากูน่าเลคแลนด์ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากตัวเมืองภูเก็ต ที่ไม่เคยหลับไหล และหาดป่าตอง ที่มีชีวิตชีวาเพียง 30 นาที และจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพียง 25 นาที

เกี่ยวกับลากูน่า ภูเก็ต

ลากูน่า ภูเก็ตเป็นรีสอร์ทแบบครบวงจรชั้นนำของเอเชีย ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของทะเลอันดามัน บนชายหาดขาวบริสุทธิ์ที่ทอดยาว 3.5 กม. เป็นที่ตั้งของโรงแรมระดับโลก 7 แห่ง สิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมี่ยม และเรสซิเดนซ์และอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ลากูน่า ภูเก็ตตั้งอยู่ริมชายหาด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,530 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ภูมิทัศน์สวนอันเขียวชอุ่ม ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 25 นาทีโดยรถยนต์ มีสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่ได้รับรางวัลสนามกอล์ฟยอดเยี่ยม สปาหรู ร้านอาหารชั้นเลิศ และกิจกรรมมากมายเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน

ด้วยห้องพักมากกว่า 1,400 ห้อง ลากูน่า ภูเก็ต จึงเหมาะกับผู้เข้าพักทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ครอบครัวที่มีเด็กเล็กไปจนถึงการพักผ่อนสไตล์หรูหราและเป็นส่วนตัว ผู้เข้าพักที่ลากูน่า ภูเก็ตสามารถใช้บริการ Shuttle Bus และ Shuttle Boat เดินทางไปทุกจุดตามที่ต้องการโดยไม่จำกัดเวลา พร้อมมีบริการด้านการเงินระบบ Integrated Cashless Payment ให้เลือกใช้ โดยไม่ว่าคุณจะใช้จ่ายบริการที่ส่วนไหนของโรงแรมใน Laguna Phuket ก็ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการชำระค่าใช้จ่าย โรงแรมจะสรุปยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดกลับไปที่ห้องพัก นอกเหนือจากโรงแรมทั้ง 7 แห่ง ลากูน่า ภูเก็ตยังมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ ซึ่งให้บริการการขาย และการเช่าเรสซิเดนซ์ อพาร์ทเมนต์ และวิลล่าที่หลากหลาย สำหรับแขกที่ประสงค์จะอาศัย หรือลงทุนบ้านพักตากอากาศภายในอาณาจักร ที่ครบวงจรของเรา

เกี่ยวกับเครือบริษัทบันยันกรุ๊ป

เครือบริษัทบันยันกรุ๊ป (“บริษัท บันยันทรี โฮลดิ้งส์ จำกัด” หรือ “กลุ่มบริษัท” ซื้อขายหุ้นในนาม SGX: B58) เป็นธุรกิจบริการชั้นนำระดับโลกที่บริหารงานอย่างอิสระและมีเป้าหมายเพื่อมอบบริการและความเป็นอยู่ที่เหนือระดับ ภายใต้ดีไซน์การออกแบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่เป็นเลิศให้กับผู้พักอาศัย โดยทางเครือบริษัทมีความภาคภูมิใจในจิตวิญญาณด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นี้ และในขณะเดียวกัน ก็พร้อมมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน  เครือบริษัทมีโครงการในหลากจุดหมายปลายทางทั่วโลกรวมถึงโรงแรมและรีสอร์ทถึง 70 แห่ง สปาและแกลเลอรี กว่า 60 แห่ง และเรสซิเดนซ์ภายใต้แบรนด์ 14 แห่งในกว่า 20 ประเทศ กลุ่มบริษัทมีแบรนด์ ในเครือระดับโลก 12 แบรนด์ รวมไปถึงแบรนด์หลักอย่างบันยันทรี แต่ละแบรนด์มอบความแตกต่างอย่างลงตัว แต่มีความเหมือนในด้านโปรแกรมสมาชิก withBanyan โดยสะท้อนหลักการ “การรักษาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร” ผ่านมูลนิธิบันยัน โกลบอล (Banyan Global Foundation) และสถาบันการบริหารจัดการบันยัน (Banyan Management Academy) กลุ่มบริษัทบันยัน มุ่งรักษาความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน เน้นการท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู และโครงการนวัตกรรมที่ยกระดับ ประสบการณ์ของผู้พักอาศัย

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ  จันทร์  5  กุมภาพันธ์  2567  22:00:00 เข้าชม  1876459 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ข่าวรอบเกาะภูเก็ต
Comments are closed.

Check Also

นายก อบจ.ภูเก็ต เปิด โครงการค่ายเยาวชน เพื่อการให้ “TAKE LESS, GIVE MORE”

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567  ที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยป้องกั … …