Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ จีน ดัน 5 เมืองหลัก สู่ ศูนย์กลางการบริโภค ระดับโลก

จีน ดัน 5 เมืองหลัก สู่ ศูนย์กลางการบริโภค ระดับโลก

8 second read
0
0
189

ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา จีน เดินหน้ายกระดับเศรษฐกิจการบริโภคภายในประเทศ ให้มีศักยภาพระดับโลก ด้วยการผลักดัน 5 เมืองหลัก ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เทียนจิน และฉงชิ่ง ให้กลายเป็น “ศูนย์กลางการบริโภคระดับโลก” ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ที่เริ่มเมื่อปี 2021 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง ผ่านมาตรการเชิงนโยบาย สิทธิประโยชน์ทางภาษี โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเดินทางระหว่างประเทศ และการออกแบบประสบการณ์การบริโภคที่ครอบคลุมทั้งสินค้า บริการ และวัฒนธรรม

การเลือก 5 เมือง นี้ ดูจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคง และความสามารถในการเป็นผู้นำด้านการค้าปลีกของจีน ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุ ว่า ยอดค้าปลีกของ 5 เมืองนี้รวมกันคิดเป็นกว่า 1 ใน 8 ของยอดค้าปลีกทั่วประเทศ ขณะที่สัดส่วนของร้านค้าที่สามารถคืนภาษีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงกว่า 60% ของทั้งประเทศ โดยมีร้านคืนภาษีในเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง มากกว่า 1,400 แห่ง และในกวางโจว มากกว่า 500 แห่ง

หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จ คือ การพัฒนารูปแบบการบริโภคใหม่ ๆ เช่น การมีนโยบาย “คืนภาษี” การชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด และการส่งเสริม “เศรษฐกิจกลางคืน” โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองนำร่องในการทดลองมาตรการที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคต่างชาติ เช่น การคืนภาษีทันทีเมื่อซื้อสินค้าในร้าน และการใช้เทคโนโลยี QR code เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงิน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก

นอกจากนี้ 5 เมืองนี้ ยังให้ความสำคัญกับการดึงดูดแบรนด์ระดับโลก โดยเฉพาะผ่านกลยุทธ์ First-store Economy ที่ดึงดูดแบรนด์ต่างชาติและแบรนด์จีนให้เปิดตัวในพื้นที่เมืองหลวง และมหานครสำคัญ ข้อมูลจากทางการกรุงปักกิ่ง ระบุ ว่า ตั้งแต่ปี 2023 มีแบรนด์ต่างชาติมากกว่า 3,100 แบรนด์เปิดสาขาใหม่ในเมือง ขณะที่ในฉงชิ่ง ตัวเลขแบรนด์ที่เปิดสาขาแรกในเมือง เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนติดอันดับหนึ่งในเมือง ที่แบรนด์เลือกเปิดสาขาใหม่ มากที่สุด 3 ปี ซ้อน

ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จของนโยบายนี้ ยังเกิดจากการสร้าง “ประสบการณ์การบริโภคเชิงวัฒนธรรม” ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การซื้อสินค้า เท่านั้น แต่รวมถึงกิจกรรม และไลฟ์สไตล์ เช่น การจัดนิทรรศการระดับโลก การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา การเปิดโซนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ และการใช้ทรัพยากรทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นให้กลายเป็นแรงดึงดูดของนักท่องเที่ยว เช่น ปักกิ่งพัฒนาย่านต่างๆอย่าง Wangfujing Xidan Qianmen และ Sanlitun ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ขณะที่กวางโจวส่งเสริมการท่องเที่ยว ผ่านเส้นทางเรือสำราญจากท่าเรือนานาชาติ ในเขตหนานซา ซึ่งปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้าออกมากกว่า 100,000 คน

ในด้านนโยบายระดับชาติ รัฐบาลจีน ได้ออกมาตรการ กว่า 20 ฉบับ เพื่อส่งเสริมการบริโภค รวมถึงการเพิ่มจุดคืนภาษี การเร่งพัฒนาเขตปลอดภาษี การปรับปรุงกระบวนการยื่นขอวีซ่าให้สะดวกขึ้น และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ระบบ e-Visa และแอปพลิเคชันแปลภาษา ซึ่งเป็นปัจจัยที่ข่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ได้

ความสำเร็จของ 5 เมืองนี้ นอกจากเป้าหมายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยังแสดงถึงความสามารถของจีน ในการออกแบบระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ ที่สามารถดึงดูดทั้งผู้บริโภคในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในอนาคตรัฐบาลจีน คาดหวัง ว่า 5 เมืองนี้ จะมีศักยภาพสูงที่จะก้าวสู่ระดับเดียวกับมหานครสำคัญของโลก เช่น นิวยอร์ก ลอนดอน และโตเกียว โดยไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม นวัตกรรม และประสบการณ์การบริโภคที่เชื่อมจีนกับโลก อย่างเต็มรูปแบบ

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย / ภาพ : CGTN

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : พุธ  30 กรกฎาคม 2568 15:18:59 เข้าชม : 1689443 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

หน่วยปฏิบัติการบินแห่งชาติของไต้หวัน ปรับปรุง ฝูงบิน แอร์บัสเฮลิคอปเตอร์ เสริมขีดความสามารถภารกิจช่วยผู้ประสบภัย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย 31 กรกฎาคม 2568 – หน่วยปฏิบัติการบิน … …