เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย ตามคำทูลเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่าง วันที่ 13-17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2025 นับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกของกษัตริย์ไทย หลังสองประเทศ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา การเยือนครั้งนี้ ช่วยเสริมสร้างมิตรภาพอันยาวนาน ระหว่าง จีนและไทย เพิ่มความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และเปิดบทใหม่แห่งความสัมพันธ์ฉันมิตร ระหว่าง จีนและไทย
ระหว่างการเสด็จเยือนจีนครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามลำดับ และได้บรรลุการความรับรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการพัฒนามิตรไมตรีความสัมพันธ์ ระหว่าง จีนกับไทย
พระราชวงศ์ไทย มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับจีน และทรงมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมมิตรภาพจีน-ไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จเยือนจีน อย่างเป็นทางการ ถึง 3 ครั้ง ในขณะดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จเยือนหลายพื้นที่ของจีนรวมทั้งกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลเจียงซู เป็นต้น ในครั้งนี้ ทรงมีพระราชดำรัสกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่า จีน เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นความก้าวหน้าของจีนที่ทันสมัยและงดงาม

ในการเสด็จเยือนจีนครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเน้นย้ำ ประเด็นทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเป็นสำคัญ รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างความดั้งเดิมและอนาคต ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศจีนและประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง จากนั้นได้เสด็จไปยังสถาบันเทคโนโลยีอวกาศจีน ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเยี่ยมชมนิทรรศการพิเศษ “หมื่นมิ่งมงคลไชย สายสัมพันธ์นิรันดร : นิทรรศการโบราณวัตถุฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน” ซึ่งจัดที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง สื่อจีนต่างพากันชื่นชมการเสด็จเยือนจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้อันเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันสนิทแน่นแฟ้นระหว่างจีนและไทยได้อย่างชัดเจน เพิ่มพูนมิตรไมตรีความผูกพันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ และเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี ในอนาคต
ในช่วงหลายปี ที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มากขึ้น ทั้งสองฝ่ายได้ระบุในแถลงการณ์ร่วม ว่า มุ่งเน้นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนากำลังการผลิตรูปแบบใหม่ และได้สร้างสถิติ “ครั้งแรก” หลายรายการในหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่จีนนำตัวอย่างจากดวงจันทร์ไปจัดแสดงนอกประเทศ และเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ร่วมมือกับจีนในการสำรวจขั้วโลก นอกจากนี้ จีนและไทย ยังบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับการจัดทำแผนพัฒนาการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-ไทย ระยะ 5 ปี (2025-2029) โดยจะขยายความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาสีเขียว ปัญญาประดิษฐ์ และการสำรวจดวงจันทร์
นอกจากนี้ จีนและไทยได้เข้าสู่ “ยุคฟรีวีซ่า” ในแต่ละปี ทั้งสองฝ่าย มีนักศึกษาที่มาเรียนในประเทศของกันและกัน ประมาณ 30,000 คน อีกทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ โดยผ่านโครงการเส้นทางสายไหมทางทะเล ไปจนถึงโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
เชื่อว่า การเสด็จเยือนจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งนี้ จะเป็นโอกาสในการ เสริมสร้างความร่วมมือ เพิ่มพูนมิตรภาพ และร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งมิตรภาพระหว่างจีน-ไทย
เขียน โดย โจว ซวี่ ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : พุธ 26 พฤศจิกายน 2568 14:22:59 เข้าชม : 1897336 ครั้ง



















