Home ข่าวเด่น ดิจิทัล เขตการค้าเสรี จีน-อาเซียน 3.0 ส่งเสริม การเปิดกว้าง และความร่วมมือในภูมิภาค

เขตการค้าเสรี จีน-อาเซียน 3.0 ส่งเสริม การเปิดกว้าง และความร่วมมือในภูมิภาค

7 second read
0
0
142

ภายใต้ภูมิหลังที่ประเทศมหาอำนาจบางประเทศ ดำเนินนโยบายเอกภาคี และการกีดกันทางการค้า ประเทศในเอเชีย จะเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคได้อย่างไร ?

วันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จีน-อาเซียน ได้ลงนามในพิธีสารยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ความสำเร็จนี้ไม่เพียงเป็นอีกก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสร้างความร่วมมือแบบเปิดกว้างเท่านั้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้างในช่วงเวลาสำคัญอีกด้วย

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นผลสำคัญจากฉันทามติที่บรรลุระหว่างนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนและผู้นำอาเซียนในการประชุมสุดยอดจีน-อาเซียนสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์คู่เจรจาจีน-อาเซียน นอกจากนี้ ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินการตามมติของที่ประชุมเต็มคณะครั้งที่ 4 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ซึ่งชี้นำให้จีนขยายการเปิดกว้างที่มีมาตรฐานสูงและสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

ความร่วมมือที่ยกระดับระหว่างเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองและห้าของโลกไม่ได้เป็นเพียงผลรวมของตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเป็นความสอดคล้องกันของแนวคิดด้วย

มีการพัฒนาเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มนำไปปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบในปี 2010 เพื่อตอบสนองความต้องการในการเร่งบูรณาการของภูมิภาค การปรับพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การลดภาษีสินค้า ไปจนถึงการขยายความร่วมมือภาคบริการ และปัจจุบัน มีการประสานงานด้านกฎระเบียบและมาตรฐานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นและความปรารถนาที่เพิ่มขึ้นของความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-อาเซียน กระบวนการนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลและความเข้าใจยุทธศาสตร์ของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับแนวโน้มการพัฒนาของโลกได้อย่างชัดเจน

การสร้างเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างตลาดขนาดใหญ่และส่งเสริมประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ปัจจุบัน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง จีนและอาเซียนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกันมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยมีมูลค่าการค้ารวมเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2024 และจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ทั้งสองฝ่ายมีการลงทุนต่อกันมูลค่าเกิน 450,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันแน่นแฟ้นเหล่านี้ก่อให้เกิดรากฐานที่มั่นคงสำหรับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

ภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว การปรับปรุงมาตรฐานและกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน มากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน มาตรการเหล่านี้จะส่งเสริมให้ภูมิภาคนี้ก้าวไปสู่การบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว

ภาคธุรกิจต่างคาดการณ์ว่า ข้อตกลงดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดใจของภูมิภาคนี้ในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังมีส่วนช่วยในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย ความคาดหวังที่สูงเหล่านี้ตอกย้ำถึงศักยภาพของเขตการค้าเสรีที่ได้รับการยกระดับนี้ เพื่อเปิดประตูสู่มิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน

เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ร่วมกันอย่างจริงจังของทั้งสองฝ่าย ในการธำรงไว้ซึ่งระบบพหุภาคี และการค้าเสรี ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และลัทธิกีดกันทางการค้าที่แผ่ขยาย จีนและอาเซียน กำลังสร้างความมั่นคง ผ่านความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในโลก ที่ไม่แน่นอน ความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างตลาดที่มีการบูรณาการระดับภูมิภาค ที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎเกณฑ์ รวมทั้งระบบอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคที่มีความยืดหยุ่นและก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน นั้น จะช่วยนำโอกาสการพัฒนาสำคัญให้กับธุรกิจต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค และทั่วโลก สร้างความเชื่อมั่น และพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง ให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ตลอดจนทั่วโลก และเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่ร่วมมือกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างประเทศ

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 14 พฤศจิกายน 2568 18:37:59 เข้าชม : 1689552 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ข่าวเด่น ดิจิทัล
Comments are closed.

Check Also

นายก อบจ.ภูเก็ต ประชุมหารือแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเล

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุ … …