วันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2016 นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านต้าวาน ตำบลฮวงสือ อำเภอจินไจ้ เมืองลู่อัน มณฑลอันฮุย เพื่อตรวจดูงานบรรเทาความยากจน บริเวณลานขนาดเล็กภายในบ้านของเฉิน เจ๋อเซิน ซึ่งเป็นครอบครัวที่ยากจน สีจิ้นผิงกับบรรดาชาวบ้านได้นั่งรวมกันเป็นวงและพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างเป็นกันเอง
เมื่อเร็ว ๆ นี้นักข่าวได้ไปขอสัมภาษณ์เฉิน เจ๋อเซิน ต่อไปเป็นคำบอกเล่าถึงความซาบซึ้งใจของเฉินเจ๋อเซิน ภายหลังได้หลุดพ้นความยากจนและกำลังก้าวสู่ความมั่งคั่ง วันนั้น ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใสหลังจากเพิ่งฝนตก ผมกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้ตามเนินดิน หนึ่งในนั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเพ่งมองแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่า ท่านก็คือสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่ของพวกเรา ผมรีบเดินไปต้อนรับ และ เชิญท่านเลขาธิการใหญ่สี เข้ามาในบ้าน ภายในบ้านเรียบง่ายมาก แต่ท่านเลขาธิการใหญ่มองดูอย่างละเอียด กระทั่งสังเกตเห็นใบประกาศรางวัลของหลานชาย ที่ติดไว้บนผนังด้วย ขณะถามถึงสภาพการเรียนหนังสือของเด็ก ท่านกล่าวว่าจะปล่อยให้เด็ก ๆ พ่ายแพ้ในจุดเริ่มต้นไม่ได้ หากการศึกษาตามไม่ทัน ก็จะล้าหลังรุ่นแล้วรุ่นเล่า การเรียนรู้ทักษะความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จึงจะมีหลักประกันที่ดียิ่งขึ้นได้
หลานชายของผมใช้ได้เลย ตอนนี้จบการศึกษาจากวิทยาลัยและทํางานแล้ว ปีที่แล้ว เขายังพาผมไปเปิดหูเปิดตาที่เมืองใหญ่โดยเฉพาะด้วย
ท่านเลขาธิการใหญ่สีมีความผูกพันต่อเขตการปฏิวัติเก่าของเราจริงๆ! ท่านกล่าวว่า การสร้างสังคมมีกินมีใช้อย่างรอบด้านนั้นจะไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังแม้แต่คนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะลืมพื้นที่การปฏิวัติเก่าไม่ได้เป็นอันขาด ท่านยังบอกเราด้วยว่าต้องกําจัดความยากจนควบคู่ไปกับการสร้างความร่ำรวย การบรรเทาความยากจนผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมนั้นมีความสําคัญอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมต้องสอดคล้องกับความต้องการแห่งการพัฒนา ต้องดำเนินการโดยพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงและความได้เปรียบของท้องถิ่น ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และ ปรับปรุงให้ดีขึ้น อย่างต่อเนื่อง ด้วยความช่วยเหลือจากหมู่บ้าน ผมได้ติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ ในลานบ้าน ผมยังเป็นผู้ได้ประโยชน์จากนโยบายดีๆของรัฐบาล เช่นนโยบายเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานเพื่อบรรเทาความยากจน ทำให้ผม และ ครอบครัว ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ เมื่อปี 2017 ผมได้ยื่นขอถอด”หมวกความยากจน”ด้วยความสมัครใจ ได้แขวนเกียรติบัตรแห่งการหลุดพ้นความยากจน ไว้ในห้องนั่งเล่นของบ้านใหม่
เมื่อปีที่แล้ว หมู่บ้านส่งเสริมให้จัดซื้อชั้นวางสินค้าเกษตร ในการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวในชนบท ระดมให้บรรดาชาวบ้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสีเขียวของหมู่บ้าน ผมเป็นกลุ่มคนแรกที่ซื้อชั้นวางสินค้า และ ได้เปิดประตูขายของในลานบ้านเก่า เวลานี้ผมไม่เพียงแต่ขายผลผลิตทางการเกษตรของตัวเองเท่านั้น หากยังขับรถสามล้อไฟฟ้าไปที่บ้านของชาวบ้านเพื่อรับซื้อผลิตภัณฑ์ภูเขาอีกด้วย ทีแรก ผลผลิตในท้องถิ่นที่ผมนำกลับมาไม่มี “หน้าตาแห่งการขาย” ต่อมา ภายใต้การแนะนำของเจ้าหน้าที่ผู้บริหารในหมู่บ้าน ผมได้ใช้ถุงบรรจุภัณฑ์ ที่หมู่บ้านส่งเสริมให้ใช้อย่างเป็นเอกภาพ ชั่งน้ำหนักทีละถุง บรรจุทีละชิ้น ดูดี และขายได้คล่องเลย
ทุกวันนี้ ชั้นวางของผมเต็มไปด้วยสินค้าต่าง ๆ เช่น หน่อไม้แห้ง เห็ดหูหนู และสินค้าจากภูเขาอื่นๆ รวมถึงสินค้าพื้นเมืองคุณภาพสูง เช่น ใบชาเขียว “ลู่อันกวาเพี่ยน” และ ดอกสือหู ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนมากคุณค่าชนิดหนึ่ง ผมยังได้เปิดบัญชีการชำระเงินออนไลน์ และ ยื่นขอรหัสคิวอาร์ เพื่อรับชำระเงิน ธุรกิจก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รายได้ 50,000 – 60,000 หยวน ต่อ ปี ไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย ธุรกิจการท่องเที่ยวในหมู่บ้านกำลังได้รับการพัฒนา บนภูเขามีสวนชาเชิงนิเวศวิทยา บริเวณเชิงเขา มีโฮมสเตย์ใต้ท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยดวงดาว ที่เปล่งประกาย ตามแม่น้ำมีรายการล่องแก่งระยะทาง 10 ลี้ (5 กิโลเมตร) ตามบริเวณท้องถนนได้สร้างศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยว และ พิพิธภัณฑ์เกษตรกรรม บรรดาเพื่อนบ้านของผมพากันเปิดธุรกิจที่พักแรม รวมถึงการไลฟ์สดจำหน่ายสินค้า พวกเรานับวันมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อย่างต่อเนื่องจริง ๆ ต้องขอบคุณท่านเลขาธิการสีจิ้นผิงที่ชี้นำให้เราได้มีชีวิตที่ดี ผมจะใช้สองมือของตนเอง เดินตามนโยบายที่ดีของพรรคตลอดไป เพื่อมีชีวิตที่มั่งคั่งและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
แปลเรียบเรียงโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุ และ โทรทัศน์ส่วนกลางแห่งประเทศจีน (CMG)
TAG : 0 0 Google + 0 เขียนเมื่อ : 2 กันยายน 2565 16:54:59 เข้าชม : 1958412 ครั้ง