
วันนี้ 14 เมษายน 2566 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต เป็นประธานหารือร่วมกับพ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ,นางพุทธชาติ สังข์ประพันธ์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต , เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และ เจ้าพนักงาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เพื่อกำหนดแผนการลงพื้นที่ตรวจเข้มร้านจำหน่ายกัญชา ในพื้นที่ อำเภอเมืองภูเก็ต
จากนั้นเวลา 20.00 น. นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอเมืองภูเก็ต และ คณะลงพื้นที่ตรวจเข้มร้านจำหน่ายกัญชา ในพื้นที่ อำเภอเมืองภูเก็ต พบการกระทำผิดไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายกัญชา จำนวน 1 ร้าน คือ ร้าน ออแกนไฮน์ ตั้งอยู่ตำบลตลาดใหญ่อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบใบอนุญาต ร้าน ออแกนไฮน์ พบไม่มีใบอนุญาตจำหน่าย หรือ แปรรูปกัญชา นางพุทธชาติ สังข์ประพันธ์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงได้ทำการจับกุมพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ ในข้อหา”จำหน่ายสมุนไพรควบคุม(ช่อดอกกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหาได้กระทำผิดซึ่งหน้าจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้เข้าตรวจสอบ ที่ร้าน ELWEED PLUD 5 เลขที่ 1 ตำบลตลาดใหญ่อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต พบว่า ร้านดังกล่าวมีใบอนุญาตแต่กระทำผิดเงื่อนไขใบอนุญาต คือ ตั้งร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกัญชาบริเวณทางเท้า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงได้ตักเตือน และจะมีหนังสือแจ้งคำสั่งทางปกครองพักใช้ใบอนุญาต พร้อมให้หยุดประกอบกิจการชั่วคราว โดยจะแจ้งให้ผู้ประกอบการได้รับทราบและจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป ทั้งนี้ในระหว่าง ที่ถูกพักใบอนุญาต จะต้องนำผลิตภัณฑ์กัญชา ทั้งหมดไปไว้ที่อื่น และห้ามจำหน่ายโดยเด็ดขาด จนกว่า คำสั่งพัก ใบอนุญาตจะสิ้นสุด และ ในกรณีดังกล่าว หากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะมีการดำเนินการขั้นเด็ดขาด คือ การเพิกถอนใบอนุญาต
สำหรับกฎหมายที่ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ในปัจจุบันอยู่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 มีข้อกำหนดในส่วนการห้ามจำหน่ายกัญชา กัญชงให้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร หากฝ่าฝืนก็ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และห้ามจัดให้มีสถานที่สูบกัญชา ภายในที่จำหน่ายและร้านที่ได้รับอนุญาตจะต้องมีการประกาศปิดใบอนุญาตในที่เปิดเผย หากไม่ติดใบอนุญาตถือเป็นการกระทำผิด มีโทษพักใช้ใบอนุญาตเช่นกัน
โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ตสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จะเข้มงวดกวดขันตรวจสอบการจำหน่ายกัญชา ย้ำ ต้องได้รับใบอนุญาตและต้องกำชับลูกค้าไม่ให้สูบกัญชา ในบริเวณสถานประกอบกิจการส่งกลิ่นเหม็น และควันก่อเหตุรำคาญ นอกจากการขออนุญาตของสถานประกอบการให้ถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ควรแจ้งผู้รับบริการห้ามสูบกัญชาในพื้นที่บริเวณสถานประกอบการ เนื่องจากหากพบว่ามีการสูบกัญชาส่งกลิ่นเหม็น และ ควันที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชน หรือ ผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง จะถือว่า เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ซึ่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีอำนาจออกคำแนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข และ ระงับเหตุรำคาญ หากยังไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม สามารถออกคำสั่งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองอาคารสถานที่ นั้น ระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาอันสมควร และ กำหนดวิธีการเพื่อป้องกันมิให้มีเหตุรำคาญเกิดขึ้นในอนาคตได้
หากฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนร้านอาหารที่ใช้กัญชาในการทำ ประกอบ หรือ ปรุงอาหารประเภทปรุงสำเร็จ เพื่อการจำหน่าย ต้องติดข้อความ หรือ ป้ายสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการใช้กัญชาที่ชัดเจนแสดงเมนูอาหาร และ แสดงข้อแนะนำในการบริโภคอาหารที่มีกัญชา และ ต้องขอรับใบอนุญาต หรือ ขอรับหนังสือรับรองการแจ้งจัดตั้งสถานที่จำหน่ายอาหาร จากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มาตรา 38 หากไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือ กรณีไม่มีหนังสือรับรองการแจ้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 25,000 บาท เช่นกัน
ที่มา : สำนักงาน ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต / สำน้ักงาน นสพ.อาณาจักรนิวส์
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : เสาร์ 15 เมษายน 2566 12:40:59 เข้าชม : 1798411 ครั้ง