
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวเปิดการสัมมนา “ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-จีน” ที่สถาบันจีน-ไทย มหาวิทยาลัยรังสิตจัดขึ้น โดยให้มุมมองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย และ จีน ท่ามกลางบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปว่า
โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่ กระแสโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาความเจริญ ข้อมูลสารสนเทศ ระบบอัจฉริยะ โลกดิจิทัล ทำให้ชีวิตสะดวกอย่างไม่เคยมีมาก่อน ขณะเดียวกันการพัฒนาของมวลมนุษยชาติที่ไม่สมดุล ทำให้เกิดปัญหาและความท้าทายใหม่ ในโลกปัจจุบัน จึงต้องการความร่วมมือพิเศษ ที่รับความท้าทายกับอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้โลกมีสันติ และ การพัฒนา
ประเทศจีนเข้าสู่ยุคใหม่ โดยในปีค.ศ. 2021 ประเทศจีนบรรลุเป้าหมายอยู่ดีมีสุข อย่างถ้วนหน้า เริ่มต้นการบุกเบิกการเดินทางครั้งใหม่ในการสร้างประเทศสังคมนิยม ที่มีความทันสมัยรอบด้าน โดยการประชุมสองสภาที่ผ่านมา มีการกำหนดพิมพ์เขียวในการพัฒนาประเทศ นำเสนอความรุ่งโรจน์ในการพัฒนาประเทศในแบบจีน
ท่านทูตหาน จื้อเฉียง อธิบาย “ความทันสมัยแบบจีน” ว่า ความทันสมัยแบบจีน คือ ความทันสมัยที่ถือประชาชน เป็นศูนย์กลาง เป็นความทันสมัยที่ประชาชนทุกคน มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน เป็นความทันสมัยที่สอดประสาน ระหว่างความสมบูรณ์ ทางวัตถุ และ จิตวิญญาณ เป็นความทันสมัยที่มนุษยชาติ และ ธรรมชาติอยู่ร่วมกัน อย่างกลมกลืน และ เป็นความทันสมัยที่ยึดมั่นในเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ
ตามแนวทางนี้ จีน จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และ อำนวยประโยชน์แก่โลกให้มากยิ่งขึ้น เมื่อปีค.ศ. 2022 ขนาดเศรษฐกิจหรือจีดีพีของจีนสูงถึง 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 18.5 ของเศรษฐกิจโลก และเป็นเวลานับสิบปีที่เศรษฐกิจจีนมีส่วนช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากกว่าร้อยละ 30 ในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 4.5 ซึ่งบ่งชี้ ว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และ มีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
สำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย ในยุคใหม่ ท่านทูตหาน จื้อเฉียง มองว่า ในการขับเคลื่อนอนาคตร่วมกันของทั้งสองประเทศ ประการที่ 1 ต้องเพิ่มพูนความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ต้องมีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และสิทธิในการพัฒนาของตนเอง
ประการที่ 2 ต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนาควบคู่กัน ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน เร่งดำเนินการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทย ที่จะช่วยเชื่อมภูมิภาค และ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และ นวัตกรรมร่วมกัน
ประการที่ 3 ต้องสานสายใยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ร่วมกันสืบสานประเพณีดั้งเดิมของตะวันออก และ ค่านิยมของเอเชีย ยึดมั่นในการเปิดใจรับความร่วมมือ และ การได้ประโยชน์ร่วมกัน และ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านอารยธรรมของโลก ในยุคใหม่ร่วมกัน ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคของอินเทอร์เน็ต และ ยุคข้อมูลข่าวสาร ขยายวิธีการในการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันของทั้งสองประเทศ ส่งเสริมให้มีความรู้ด้านการกีฬา ศิลปะวัฒนธรรมให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
ประการที่ 4 ร่วมกันสร้างคุณูปการด้านสันติภาพในโลก โดยท่านทูตกล่าว ว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นบ้านของพวกเรา ต้องร่วมกันทะนุถนอม และ รักษาไว้ซึ่งบรรยากาศที่ดี เพื่อความเจริญรุ่งเรือง และ ก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ ในโลกที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน ขอให้ร่วมกันสร้างอนาคตร่วมกัน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของชาวไทย และ ชาวจีน และ เพื่ออนาคตที่สดใสของภูมิภาค และ โลก
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
TAG : 0 0 Google + 0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 26 พฤษภาคม 2566 18:26:59 เข้าชม : 1983568 ครั้ง