Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-จีน  ในมุมมองของเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-จีน  ในมุมมองของเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

4 second read
0
0
381

นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวเปิดการสัมมนา “ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ไทย-จีน” ที่สถาบันจีน-ไทย มหาวิทยาลัยรังสิตจัดขึ้น โดยให้มุมมองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย และ จีน ท่ามกลางบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไปว่า

โลกได้เข้าสู่ยุคใหม่  กระแสโลกาภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาความเจริญ ข้อมูลสารสนเทศ ระบบอัจฉริยะ โลกดิจิทัล ทำให้ชีวิตสะดวกอย่างไม่เคยมีมาก่อน  ขณะเดียวกันการพัฒนาของมวลมนุษยชาติที่ไม่สมดุล ทำให้เกิดปัญหาและความท้าทายใหม่  ในโลกปัจจุบัน จึงต้องการความร่วมมือพิเศษ ที่รับความท้าทายกับอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้โลกมีสันติ และ การพัฒนา

ประเทศจีนเข้าสู่ยุคใหม่  โดยในปีค.ศ. 2021 ประเทศจีนบรรลุเป้าหมายอยู่ดีมีสุข อย่างถ้วนหน้า เริ่มต้นการบุกเบิกการเดินทางครั้งใหม่ในการสร้างประเทศสังคมนิยม ที่มีความทันสมัยรอบด้าน  โดยการประชุมสองสภาที่ผ่านมา มีการกำหนดพิมพ์เขียวในการพัฒนาประเทศ  นำเสนอความรุ่งโรจน์ในการพัฒนาประเทศในแบบจีน

ท่านทูตหาน จื้อเฉียง อธิบาย “ความทันสมัยแบบจีน” ว่า ความทันสมัยแบบจีน คือ ความทันสมัยที่ถือประชาชน เป็นศูนย์กลาง  เป็นความทันสมัยที่ประชาชนทุกคน มีความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน เป็นความทันสมัยที่สอดประสาน ระหว่างความสมบูรณ์ ทางวัตถุ และ จิตวิญญาณ เป็นความทันสมัยที่มนุษยชาติ และ ธรรมชาติอยู่ร่วมกัน อย่างกลมกลืน และ เป็นความทันสมัยที่ยึดมั่นในเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ

ตามแนวทางนี้ จีน จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น และ อำนวยประโยชน์แก่โลกให้มากยิ่งขึ้น  เมื่อปีค.ศ. 2022 ขนาดเศรษฐกิจหรือจีดีพีของจีนสูงถึง 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 18.5 ของเศรษฐกิจโลก  และเป็นเวลานับสิบปีที่เศรษฐกิจจีนมีส่วนช่วยการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากกว่าร้อยละ 30  ในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัวร้อยละ 4.5 ซึ่งบ่งชี้ ว่า เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และ มีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว

สำหรับความสัมพันธ์จีน-ไทย ในยุคใหม่  ท่านทูตหาน จื้อเฉียง มองว่า ในการขับเคลื่อนอนาคตร่วมกันของทั้งสองประเทศ ประการที่ 1 ต้องเพิ่มพูนความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน  ต้องมีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และสิทธิในการพัฒนาของตนเอง

ประการที่ 2 ต้องส่งเสริมให้มีการพัฒนาควบคู่กัน  ส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกัน เร่งดำเนินการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทย ที่จะช่วยเชื่อมภูมิภาค และ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และ นวัตกรรมร่วมกัน

ประการที่ 3 ต้องสานสายใยการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  ร่วมกันสืบสานประเพณีดั้งเดิมของตะวันออก และ ค่านิยมของเอเชีย ยึดมั่นในการเปิดใจรับความร่วมมือ และ การได้ประโยชน์ร่วมกัน และ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านอารยธรรมของโลก ในยุคใหม่ร่วมกัน  ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคของอินเทอร์เน็ต และ ยุคข้อมูลข่าวสาร ขยายวิธีการในการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันของทั้งสองประเทศ  ส่งเสริมให้มีความรู้ด้านการกีฬา ศิลปะวัฒนธรรมให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

ประการที่ 4 ร่วมกันสร้างคุณูปการด้านสันติภาพในโลก  โดยท่านทูตกล่าว ว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นบ้านของพวกเรา ต้องร่วมกันทะนุถนอม และ รักษาไว้ซึ่งบรรยากาศที่ดี เพื่อความเจริญรุ่งเรือง และ ก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ  ในโลกที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน ขอให้ร่วมกันสร้างอนาคตร่วมกัน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของชาวไทย และ ชาวจีน และ เพื่ออนาคตที่สดใสของภูมิภาค และ โลก

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย

TAG : 0 0 Google + 0 เขียนเมื่อ :  ศุกร์  26  พฤษภาคม   2566  18:26:59 เข้าชม : 1983568 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

พบกับ ใครสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดสันติภาพของจีน

เมื่อหลายวันมานี้ ผู้แทนองค์การด้านกลาโหม และ ความปลอดภ … …