Home ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์ CISCE 2025 จีน เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำโลก ด้านห่วงโซ่อุปทาน

CISCE 2025 จีน เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำโลก ด้านห่วงโซ่อุปทาน

38 second read
0
0
123

จีน ประกาศเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำโลกด้านห่วงโซ่อุปทาน ผ่านการจัดงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16–20 กรกฎาคม 2025 ที่กรุงปักกิ่ง

งานในครั้งนี้ จัดขึ้น ในหัวข้อ “Connecting the World for a Shared Future” มีองค์กรและบริษัทต่างๆ เข้าร่วม 651 บริษัทจาก 75 ประเทศ มีผู้แสดงสินค้าต่างชาติถึง 35% ร่วมจัดแสดงใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ การผลิตขั้นสูง พลังงานสะอาด ยานยนต์อัจฉริยะ เทคโนโลยีดิจิทัล คุณภาพชีวิตที่ดี เกษตรกรรมสีเขียว ในพิธีเปิด นายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนยืนยันว่า จีน จะยึดมั่นในหลักการ “การแบ่งปัน การเปิดกว้าง และผลประโยชน์ร่วมกัน” และย้ำบทบาทของจีน ในการรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมโลก และห่วงโซ่อุปทาน ในยุคแห่งความไม่แน่นอน

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือ การประกาศ “Beijing Initiative” โดย China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) และพันธมิตรจากนานาชาติ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน สนับสนุนการค้าหลายฝ่ายตามกรอบ WTO ผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียน และเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลควอนตัม (quantum information)

ความสำเร็จของ CISCE ครั้งนี้ยังสะท้อนผ่านการมีส่วนร่วมของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ อาทิ Nvidia Tesla Rio Tinto และ GE HealthCare ที่ต่างยกย่องบทบาทของตลาดจีนในฐานะแกนกลางของห่วงโซ่อุปทานโลก โดย Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวว่า ระบบซัพพลายเชนของจีนคือสิ่งมหัศจรรย์ และยกย่องการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี AI ว่าเป็น “แรงผลักสำคัญของความก้าวหน้าโลก”

Tesla ระบุว่าโรงงานขนาดใหญ่ (Gigafactory) ที่เซี่ยงไฮ้สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ทุก 30 วินาที โดยมีชิ้นส่วนกว่า 95% มาจากผู้ผลิตในประเทศจีน ขณะที่ GE HealthCare ระบุว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างภายในจีนมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวนต่อปี (45,000 ล้านบาท) และมีซัพพลายเออร์มากกว่า 1,000 ราย สนับสนุนห่วงโซ่อุปทานใน 4 ภูมิภาคหลักของประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีเสียงตอบรับจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อย่างบริษัท Aledjo CNC Machining จากเซอร์เบีย ซึ่งระบุว่างาน CISCE ไม่ได้เป็นงานสำหรับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการ SME มีโอกาสสร้างพันธมิตรใหม่กับทั้งบริษัทจีนและต่างชาติ

ขณะที่นักวิชาการ อย่าง ศาสตราจารย์หวัง อี้เว่ย จาก Renmin University of China มองว่า CISCE คือ ภาพสะท้อนของ “สะพานแห่งความร่วมมือ” โดยเฉพาะในยุคที่ห่วงโซ่อุปทานต้องอาศัยความร่วมมือและพึ่งพากัน ไม่สามารถแยกตัวโดดเดี่ยวได้อีกต่อไป

CISCE 2025 เป็นสิ่งยืนยัน ว่า จีน ไม่ได้ต้องการเป็นศูนย์กลางการผลิต เท่านั้น แต่ต้องการเป็นผู้ประสานห่วงโซ่อุปทาน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ที่พร้อมเชื่อมทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ อย่างมั่นคง และยั่งยืน

บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย / ภาพ : CGTN

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 18 กรกฎาคม 2568 17:00:00 เข้าชม : 1896559 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In ที่ปรึกษากฎหมาย โดย ทนาย สุนทร พยัคฆ์
Comments are closed.

Check Also

อบจ.ภูเก็ต ร่วมงาน แถลงข่าว ASIA LINK SKETCHWALK PHUKET 2025

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ Limelight P … …