จีน สนับสนุน การใช้พลังงานสีเขียว ทั้งใน และต่างประเทศ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานสารนิเทศ คณะรัฐมนตรีจีน จัดการแถลงข่าว เกี่ยวกับความสำเร็จในการพัฒนาพลังงานคุณภาพสูง ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 โดย ระบุ ว่า จีน สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาพลังงานที่สำคัญ สำหรับช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 (ค.ศ. 2021-2025) ตามกำหนด เป้าหมายดังกล่าวรวมถึงกำลังการผลิตพลังงานโดยรวม และสัดส่วนของพลังงานสีเขียว

ปัจจุบัน จีน ถือครองสิทธิบัตรพลังงานทดแทนมากกว่า ร้อยละ 40 ของโลก และการส่งออกผลิตภัณฑ์พลังงานลมและ ผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ของจีนช่วยให้ประเทศอื่นๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ประมาณ 4.1 พันล้านตัน

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้เน้นย้ำ ว่า จีน กำลังก้าวหน้าอย่างโดดเด่นด้านการพัฒนาพลังงานสีเขียว และคาร์บอนต่ำ และได้กลายเป็นกำลังสำคัญของโลก ในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ความพยายามของจีน ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจสีเขียว ภายในประเทศ เท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวาง ถึงการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านสู่คาร์บอนต่ำของโลก อีกด้วย

ในช่วงไม่กี่ปี ที่ผ่านมา จีน ได้กำหนดเส้นทางการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ที่เหมาะสมกับสภาพของประเทศ รวมทั้งสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาระดับของโลก และสามารถตอบสนองต่อความจำเป็นของยุคสมัย

ท่าเรือเทียนจิน ท่าเรืออัจฉริยะไร้คาร์บอนแห่งแรกของโลก ได้สร้างสถิติใหม่ ด้านประสิทธิภาพการดำเนินการ ; ท่าเรือถ่านหินอ่าวเหมยโจว ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน อุปกรณ์ที่แต่ก่อนใช้พลังงานน้ำมัน ถูกเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียว และการขนส่งสินค้าเทกองได้เปลี่ยนมาใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ; มณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน สถานีกำเนิดไฟฟ้า หลงหยางเซี่ย ใช้ระบบผสมผสานระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับพลังงานน้ำ ผลการผลิตพลังงานสะอาดของสถานีกำเนิดไฟฟ้าแห่งนี้ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ประมาณ 1.23 ล้านตันต่อปี

ตั้งแต่ท่าเรือพลังงานไฮโดรเจน ไปจนถึงโครงการพลังงานไฟฟ้าสีเขียวบนที่ราบสูง การพัฒนาพลังงานสะอาดของจีน กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน จีนได้สร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยแล้ว รถยนต์ทุกห้าคันจะมีจุดชาร์จสองจุด จีน ได้สร้างระบบพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนในกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์

จีน ครองอันดับหนึ่งของโลก ด้านการติดตั้งอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้าพลังงานลม 15 ปี ติดต่อกัน และอันดับหนึ่งด้านการติดตั้งอุปกรณ์ กำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 10 ปี ติดต่อกัน ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ จีนกลายเป็นประเทศแรก ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์สะสม เกินหนึ่งเทราวัตต์ (terawatt) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญระดับโลก ในการพัฒนาพลังงานใหม่ และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางจากนานาชาติ

ศักยภาพด้านพลังงงานสีเขียว ที่กำลังเติบโตขึ้น อย่างรวดเร็วของจีน ยังเป็นแรงผลักดันความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด ระดับโลก ในประเทศไทย เทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ (inverter technology) ของจีน ได้ช่วยให้วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยมหิดล ปล่อยคาร์บอนเกือบเป็นศูนย์ ในประเทศกานา โซลูชันผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ในพื้นที่เกษตรที่เรียนรู้จากจีน กำลังส่งเสริมการบูรณาการพลังงานแสงอาทิตย์และภาคการเกษตร ปัจจุบัน ด้วยการอัปเกรดเทคโนโลยี และขยายการประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่อง จีน กำลังช่วยให้ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก เข้าถึง และได้ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมจากพลังงานสีเขียว มากขึ้น

การเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสีเขียว เป็นเส้นทางที่มนุษยชาติ ต้องดำเนินร่วมกัน ไม่ควรถูกมอง ว่า เป็นการแข่งขันแบบต้องมีฝ่ายแพ้ฝ่ายชนะ การพัฒนาสีเขียวของจีน ไม่ใช่ผลลัพธ์ของ “การแข่งขันด้านพลังงาน” แต่เป็นความพยายามแบบครอบคลุม ที่เน้นความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน

จีน ในฐานะผู้ส่งออกเทคโนโลยีพลังงานสะอาด รายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ ไปยัง กว่า 200 ประเทศ และภูมิภาค ได้ร่วมมือกับ กว่า 100 ประเทศ และภูมิภาคในโครงการพลังงานสีเขียว ซึ่งได้สร้างงานด้านพลังงานหมุนเวียน ถึง 46 เปอร์เซ็นต์ ของโลก

TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : ศุกร์ 19 กันยายน 2568 23:18:59 เข้าชม : 1897366 ครั้ง