ปีนี้ จีน ประสบความสำเร็จในภารกิจด้านอวกาศ ตามแผน ตั้งแต่ การส่งยาน “เสินโจว-20” ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2025 พานักบินอวกาศ 3 คน คือ เฉิน ตง เฉิน จงรุ่ย และหวัง เจี๋ย ขึ้นไปประจำการบนสถานีอวกาศ เป็นเวลา 6 เดือน
ก่อนถึงกำหนดกลับโลก ทีม “เสินโจว-20” ตรวจพบรอยร้าวขนาดเล็ก บริเวณ กระจกหน้าต่างของแคปซูล เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 ซึ่ง คาดว่า เกิดจากการกระแทกของเศษซากอวกาศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ทีมควบคุมภารกิจอวกาศ จึงตัดสินใจดำเนินมาตรการ 2 ประการ
ประการแรก นักบินอวกาศ “เสินโจว-20” เดินทางกลับโลกอย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2025 ด้วยยาน “เสินโจว-21” ซึ่งถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025 พร้อมนักบินอวกาศชุดใหม่
ประการที่ 2 เพื่อให้ทีมนักบินอวกาศชุดใหม่มียานกลับโลก จีน ดำเนินการปล่อยยานฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2025 ยานอวกาศ “เสินโจว-22” ถูกปล่อยขึ้นจากโลก พร้อมเสบียง และอุปกรณ์ สำหรับซ่อมแซมกระจกหน้าต่างของยานเสินโจว-20 ถือเป็นการปล่อยยานสำรองฉุกเฉินครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของโครงการฯ และแสดงถึงศักยภาพในการรับมือเหตุไม่คาดคิดของโครงการอวกาศจีน
ปีนี้ จีน ยังมีความร่วมมือด้านอวกาศระหว่างประเทศ หลายโครงการ โดยจีนและปากีสถาน ร่วมลงนามข้อตกลง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ว่าด้วยการคัดเลือกและฝึกอบรมนักบินอวกาศชาวปากีสถาน เพื่อเข้าร่วมภารกิจสถานีอวกาศในอนาคต
ด้านการสำรวจห้วงอวกาศลึกมีความก้าวหน้าที่สำคัญ โดย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ยานสำรวจ “เทียนเวิ่น-2” (Tianwen-2) ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศอย่างราบรื่น ถือเป็นภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อย และเก็บตัวอย่างกลับโลกครั้งแรกของจีน ภารกิจนี้ มีระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี มีเป้าหมายสำรวจและเก็บตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย 2016HO3 เพื่อนำกลับสู่โลก จากนั้น จะเดินทางต่อไปสำรวจดาวหางหมายเลข 311P
ภารกิจนี้ จะศึกษาดาวเคราะห์น้อย และดาวหาง ได้แก่ วิถีโคจร การหมุน ขนาด รูปร่าง คุณสมบัติทางความร้อน ตลอดจนสำรวจภูมิประเทศ องค์ประกอบ และโครงสร้างภายใน รวมถึงอาจศึกษาวัสดุที่ถูกพ่นออกมาจากดาวหางด้วย คาดว่า จะช่วยยกระดับความเข้าใจของมนุษยชาติเกี่ยวกับกำเนิด วิวัฒนาการ และลักษณะเฉพาะของดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง
นอกจากนี้ ยังมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ จากสถานีอวกาศ และโครงการสำรวจดวงจันทร์ของจีนหลายโครงการ โดยภารกิจเสินโจว-19 นักบินอวกาศสร้างแพลตฟอร์มโครงข่ายแสงในอวกาศแห่งแรกของโลกสำหรับการจำลองควอนตัม โดยทำให้อะตอมเย็นลงถึงระดับอุณหภูมิหลายสิบพิโคเคลวิน
ในด้านชีววิทยา นักบินอวกาศสามารถเพาะพันธุ์แมลงหวี่ ได้ถึง 3 รุ่น ในวงโคจร เก็บข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพฤติกรรม เพื่อนำไปวิเคราะห์ผลกระทบของสภาวะไร้น้ำหนัก และสนามแม่เหล็กต่ำต่อสิ่งมีชีวิตหลังกลับโลก
ขณะที่ภารกิจเสินโจว-20 สร้างผลงานสำคัญในหลายสาขา เช่น การเพาะผลึกโปรตีนคุณภาพสูงซึ่งอาจนำไปใช้ในการรักษาเนื้องอก การทำสถิติใหม่ของโลกด้วยการให้ความร้อนโลหะผสมทังสเตนถึง 3,100 องศาเซลเซียส เพื่อการวิจัยด้านวัสดุศาสตร์
ทีมนักบินอวกาศยังได้นำ “หนูทดลอง” กลับสู่โลก ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชุดแรกที่ถูกใช้ทดสอบบนสถานีอวกาศ โดยมีการติดตามพฤติกรรม และสรีรวิทยาของหนู อย่างต่อเนื่องในวงโคจร เพื่อศึกษาการปรับตัวระยะสั้น และระยะยาวของสิ่งมีชีวิตต่อสภาพแวดล้อมอวกาศ
ด้านการวิจัยดวงจันทร์ ปีนี้ มีผลลัพธ์สำคัญ โดยดินจากดวงจันทร์ชุดแรก ถูกนำกลับโลก นักวิทยาศาสตร์เตรียมวิเคราะห์ดินที่นำกลับมา เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและคุณสมบัติภายใต้อิทธิพลของสภาพแวดล้อมอวกาศ ข้อมูลเหล่านี้ มีความสำคัญต่อการสร้างแบบจำลองที่แม่นยำ
นอกจากนี้ การวิเคราะห์ตัวอย่างดิน จากด้านไกลของดวงจันทร์ที่เก็บโดยยาน “ฉางเอ๋อ-6” (Chang’e-6) ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แมนเทิลใต้พื้นผิวด้านไกลของดวงจันทร์มีอุณหภูมิต่ำกว่าด้านใกล้
การค้นพบนี้ ให้หลักฐานด้านธรณีวิทยาและธรณีเคมี เกี่ยวกับความแตกต่างของอุณหภูมิแมนเทิล ระหว่างด้านใกล้ และด้านไกลของดวงจันทร์ และเป็นชุดข้อมูลสำคัญในการอธิบายวิวัฒนาการของดวงจันทร์ในระยะยาว
ในปี 2026 จีน ยังคงเดินหน้าแผนศึกษา และสำรวจอวกาศ โดยมุ่งสำรวจดวงจันทร์เชิงลึกผ่านภารกิจฉางเอ๋อ-7 พัฒนาสถานีอวกาศเทียนกงให้เป็นฐานวิจัย ระยะยาว พร้อมขยายการสำรวจห้วงอวกาศลึก เทคโนโลยีดาวเทียม และการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในอวกาศ มุ่งสู่การเป็นมหาอำนาจด้านอวกาศที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และความร่วมมือระหว่างประเทศ
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ที่มา : Xinhua / ภาพ : CGTN
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ ศุกร์ 26 ธันวาคม 2568 17:46:59 เข้าชม : 1679553 ครั้ง



















