Home สัมภาษณ์บุคคล แถวหน้า สัมภาษณ์บุคคล สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรีคลับ (Phuket Country Club) สวรรค์นักกอล์ฟ ทั่วโลก อยากมาสักครั้ง วาดหวัง ดันสนามกอล์ฟ สู่ ฮับกอล์ฟ เอเชีย

สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรีคลับ (Phuket Country Club) สวรรค์นักกอล์ฟ ทั่วโลก อยากมาสักครั้ง วาดหวัง ดันสนามกอล์ฟ สู่ ฮับกอล์ฟ เอเชีย

11 second read
0
0
701

ภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยว ติดอันดับโลก ซึ่งแน่นอน แหล่งท่องเที่ยวที่ครบครัน นอกจากหาดทรายสวยงาม บ้านพักตากอากาศ ร่มรื่นธรรมชาติ ยังมีอีกหนึ่งสิ่ง ที่เป็น สวรรค์ของนักท่องเที่ยว-นักกอล์ฟ ทั่วโลก สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรีคลับ จะเป็นหนึ่งในนั้น สนามกอล์ฟ มาตรฐาน และ มีคุณภาพ บนเกาะภูเก็ต ก่อตั้งเกิดขึ้น ในปี 2532 (1989) เป็นสนามกอล์ฟมาตรฐาน 18 หลุม แห่งแรกของเกาะภูเก็ต 9 หลุม อยู่บนเนินเขา อีก 9 หลุม อยู่บนพื้นราบ ที่มีน้ำบวกความท้าทายทำให้นักกอล์ฟ ต้องกลับมาอีกหลาย ๆ ครั้ง สมกับ สโลแกน “สนุกท้าทาย มิรู้ลืม” ในส่วนของที่ตั้ง สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ อยู่ศูนย์กลางของเกาะภูเก็ต ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ของภูเก็ต ใช้เวลา 12 นาที จากตัวเมืองภูเก็ต โดยเฉพาะ คลับเฮ้าส์ พร้อมสระน้ำ สวรรค์บนดิน สนามกอล์ฟแห่งนี้ การบริหาร จาก รุ่น สู่ รุ่น เริ่มก่อตั้ง ร.ท.ภูมิศักดิ์ หงษ์หยก อดีตนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เป็นผู้มองเห็นการณ์ไกล เนรมิตเพื้นที่ 800 กว่า ไร่ สร้างสนามกอล์ฟแห่งแรก มาถึง รุ่นน้อง ชาญวุฒิ หงษ์หยก ผู้บริหาร หนุ่มคลื่นลูกใหม่ มาแรง กล่าวว่า สนามภูเก็ตคันทรีคลับ แห่งนี้ ลักษณะเด่นของสนาม ถูกสร้างขึ้นท่ามกลางภูเขา และ ผาหินปูน ด้วยรูปแบบซับซ้อน ลักษณะเด่นของสนาม คือ Pot Bunker และ หลุม 10 พาร์ 5 เป็นหลุม ท้าทาย นักกอล์ฟ “ ตามสโลแกน “สนุก ท้าทาย มิรู้ลืม” ทำให้นักกอล์ฟ ทั่วโลก ที่ไม่เคยมาสัมผัส อยากมาสักครั้ง”

ผู้บริหารหนุ่ม ชาญวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า “ปัจจุบันการลงทุนสนามกอล์ฟใหม่ ๆ ในระยะหลังเกิดได้ยาก เนื่องจากที่ดินของภูเก็ต มีราคาแพง และ ไม่มีแปลงขนาดใหญ่ พอที่จะพัฒนาเป็นสนามกอล์ฟ เพราะ นอกจากตัวสนามกอล์ฟแล้ว จะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ร่วมด้วย มีคลับเฮ้าส์ พร้อมสระน้ำ ในสนามกอล์ฟ หรือ โรงแรม ที่พัก และ อื่น ๆ ทำให้การลงทุนเกิดขึ้นยากมาก ในส่วนของ สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ นับว่า เป็นสนามแห่งแรกของภูเก็ต เนื่องจาก เป็นการลงทุนในที่ดินของ บริษัทเอง เมื่อประมาณ 30 กว่าปี ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น ใช้เงินลงทุนประมาณกว่า 100 ล้านบาท โดยไม่รวมที่ดิน สร้างเฟส 1- เฟส 2 บนพื้นที่ 800 กว่า ไร่ บริเวณ สนามกอล์ฟ มีแหล่งน้ำธรรมชาติ มีน้ำตลอดทั้งปี ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับ ปัจจุบัน นับว่า การลงทุนสนามกอล์ฟ เป็นเรื่องยากมาก เนื่องจาก ต้นทุนสูง ประมาณการณ์ว่า ต่อหนึ่งสนาม จะต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ และจะต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท”

ชาญวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า “ธุรกิจสนามกอล์ฟภูเก็ต ในยุคที่เฟื้องฟูมาก ๆ พ่อของไทเกอร์วู้ด เคยมาเล่นที่สนามภูเก็ตคันทรีคลับ เมื่อ 10 กว่า ปี ที่แล้ว ในแง่ของนักกอล์ฟ นั้น ยังคงมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่หวือหวามากนัก เหมือนในอดีต”

“นักกอล์ฟชาวต่างชาติ เมื่อมาเล่นกอล์ฟแล้ว มักจะไม่เล่นเพียงสนามใดสนามหนึ่ง แต่จะหมุนเวียนไปสนามต่าง ๆ ซึ่งเกาะภูเก็ต มีอยู่ 5 สนาม และช่วงนี้ ไฮซีซั่น นี้ นักกอล์ฟทั่วโลก ก็เดินทางมาเล่นกอล์ฟ สนามภูเก็ตคันทรีคลับ ก็มีนักกอล์ฟขาประจำ หมุนเวียนมาทุกปี ช่วงนี้ การตอบรับดีมาก ปัจจุบันแนวโน้มของการเติบโต โดยเฉพาะ ในกลุ่มของนักกอล์ฟเยาวชน มากขึ้น ซึ่งทางสนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ ได้เข้ามาให้การสนับสนุน จนมีผลงานถึงระดับชาติ มีการเติบโตนักกอล์ฟมือใหม่มากขึ้น น่าพอใจ”

ส่วนในร่วมการกุศล สาธารณประโยชน์ ชาญวุฒิ กล่าวว่า “มีการจัดแข่งขันกอล์ฟ เคยจัดกอล์ฟการกุศลหลายครั้ง ครั้งล่าสุด เมื่อกลางปี 2560 ที่ผ่านมา สมาคมอสังหาริมทรัพย์ จัดแข่งขันกอล์ฟการกุศล “P-REA Charity Gold 2017” ซึ่งสมาคมอสังหาฯ จัดทุกปี ปี 2017 เป็น ปีที่ 6 เพื่อหารายได้ซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชิงรางวัล Hole-In-One รถยนตร์ Honda BR-V มูลค่า 750,000 บาท ก็มาใช้สนามภูเก็ตคันทรีคลับ แห่งนี้”

ชาญวุฒิ หงษ์หยก ผู้บริหาร สนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ กล่าวทิ้งท้าย ว่า “ หากการเมืองนิ่ง จะทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาภูเก็ตต่อเนื่อง ซึ่งภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว อันดับต้น ๆ ของโลก นักกอล์ฟที่มาเล่นประจำสนามกอล์ฟฯ แห่งนี้ ไม่มีปัญหา เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มขาประจำ อยู่แถบ ยุโรป อเมริกา เอเชีย จะทราบดีว่า ภูเก็ต กับ กรุงเทพฯ อยู่ไกลกันมาก ในส่วนของตลาดใหม่ ๆ ก็มีหลายประเทศให้ความสนใจ แต่คู่แข่งประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง จีน เวียดนาม ก็ต้องจับตามอง เป็นคู่แข่งที่สำคัญ อีกอย่าง นอกจากการตลาดแล้ว อยากให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจในส่วนของผู้ประกอบการสนามกอล์ฟในประเทศ โดยเฉพาะ เรื่องของภาษีสนามกอล์ฟ เก็บอัตราที่สูงมาก ถ้าหากพิจารณาลดหย่อน จะดีมาก”

แม้ว่า ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวไข่มุกอันดามัน นอกจากชายหาด ทิวทัศน์ ที่สวยงาม สนามกอล์ฟ ก็เป็นเสน่ห์หนึ่งของนักท่องเที่ยว มุมมอง ชาญวุฒิ หงษ์หยก ผู้บริหาร หนุ่มใหญ่ ผู้คว่ำหวอดวงการกีฬากอล์ฟ มาอย่างโชกโชน มองว่า ยุคเฟื่องฟู รุ่งโรจน์ ของ สนามกอล์ฟ อนาคตคงเหมือนในอดีตยาก ภูเก็ต มี 5 สนาม ซึ่งคงจะขยายยาก ที่ดินมีจำกัด ด้วยการแข่งขันสูง ประกอบกับ ประเทศเพื่อนบ้านเอเชีย จีน เวียดนาม ขยายสร้างสนามกอล์ฟ รองรับนักท่องเที่ยว ยิ่งทำให้การลงทุนธุรกิจนี้ ไม่ง่ายอย่างที่คิด….!? แต่อย่างน้อย ภาครัฐบาล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกอล์ฟโลก Thailand : Asia’s Golf Hub เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกอล์ฟในเอเชีย และ ขยายไปสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมกอล์ฟระดับโลก เท่ากับเป็นการนำประเทศก้าวสู่อุตสาหกรรมกอล์ฟแบบครบวงจร ในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งจะทำให้รายได้อุตสาหกรรมกอล์ฟเติบโตได้ ทำให้มองเห็นอนาคต ยังมีโอกาสรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาล !!?

ทีมข่าว นสพ.อาณาจักรนิวส์  สัมภาษณ์พิเศษ

TAG : 0 0 Google + 0 เขียนเมื่อ :   11  มิถุนายน  2561  10:18:59 เข้าชม : 1875899 ครั้ง

Load More Related Articles
Load More By admin
Load More In สัมภาษณ์บุคคล
Comments are closed.

Check Also

นายก อบจ.ภูเก็ต เปิด โครงการค่ายเยาวชน เพื่อการให้ “TAKE LESS, GIVE MORE”

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567  ที่ผ่านมา ณ วิทยาลัยป้องกั … …