เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ จัด การประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย–แปซิฟิก (APEC) ปี 2026 ถือเป็น ครั้งที่ 3 ที่จีนได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค หลังจาก เซี่ยงไฮ้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคเมื่อปี 2001 และ ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคเมื่อปี 2014
การที่เซินเจิ้น จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2026 มีความน่าสนใจหลายประการ ดังที่ Dai Yonghong คณบดีวิทยาลัยการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเซินเจิ้น กล่าวว่า เซินเจิ้นคือหน้าต่างแห่งการพัฒนาของจีน เป็นสนามทดลองนโยบายปฏิรูป และเปิดประเทศ และเป็นตัวอย่างความความสำเร็จ ในการพัฒนาแบบจีน การที่เซินเจิ้นเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคจึงเป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอ “การขับเคลื่อนความทันสมัยแบบจีน” ต่อเวทีโลก
ย้อนไป เมื่อกว่า 40 ปี ก่อน เซินเจิ้น เป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ แต่ปัจจุบันเซินเจิ้นกลายเป็นมหานครเศรษฐกิจชั้นนำของโลก ในปี 2024 มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) สูงถึง 3.68 ล้านล้านหยวน (16.9 ล้านล้านบาท) ขณะที่มูลค่าการนำเข้าและส่งออก แตะระดับ 4.5 ล้านล้านหยวน ( 20.7 ล้านล้านบาท) ทำให้เซินเจิ้นได้ชื่อว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งการค้าระหว่างประเทศของจีน”
การเติบโตของเซินเจิ้น ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอเปค ที่มุ่งส่งเสริม “การค้าเสรี การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และการเติบโตอย่างยั่งยืน” เมืองเซินเจิ้นยังทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักของโครงการพัฒนา เขตอ่าวกวางตุ้ง–ฮ่องกง–มาเก๊า ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และการพัฒนา ในระดับภูมิภาค พลังแห่งนวัตกรรมของเซินเจิ้นยังสะท้อนหลักการสำคัญของเอเปค ได้แก่การเปิดกว้างทางการค้า การอำนวยความสะดวกทางเศรษฐกิจ และการสร้างความร่วมมือ เพื่อการเติบโตอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ เซินเจิ้น ยังเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมเทคโนโลยี ระดับโลก เป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Huawei Tencent และ DJI ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจคุณภาพสูง และการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน
เซินเจิ้น ยังเป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานสะอาด และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยเป็นเมืองแรกในโลกที่ ใช้รถโดยสารสาธารณะไฟฟ้าทั้งหมด ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนหลายล้านตันต่อปี นอกจากนี้ เซินเจิ้นยังเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ กังหันลม ระบบกักเก็บพลังงาน และเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้า “Shenzhen Energy Ring” ที่ผลิตไฟฟ้าจากของเสีย ซึ่งเป็นตัวอย่างในการขับเคลื่อนการเติบโตสีเขียว ให้ภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก
เซินเจิ้น จึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาในหลายมิติ ที่พร้อมจะเสริมความร่วมมือ แสวงหาโอกาสใหม่ และสร้างอนาคตร่วมกับเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ที่ยั่งยืนร่วมกัน
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย / ที่มา : Xinhua / China Daily / ภาพ : CGTN
TAG : 0 0 Google +0 เขียนเมื่อ : พุธ 12 พฤศจิกายน 2568 16:41:59 เข้าชม : 1698755 ครั้ง



















